ทัพฟ้าขานรับนโยบายกลาโหม: เดินหน้าปรับโครงสร้างกองทัพ ลดกำลังพล เพิ่ม ‘พลเรือนกลาโหม’ ขับเคลื่อนสู่ความกะทัดรัด ทันสมัย
กองทัพอากาศ (ทอ.) ได้เดินหน้าอย่างจริงจังเพื่อตอบสนองต่อนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงกลาโหม ในการปรับโครงสร้างกองทัพให้มีขนาดกะทัดรัด คล่องแคล่ว และทันสมัย โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการลดกำลังพลทหาร และเพิ่มบทบาทของข้าราชการพลเรือนกลาโหมในตำแหน่งที่เหมาะสม
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่ห้องบรรยาย กองบัญชาการกองทัพอากาศ พลอากาศโท วิษณุ เนียมคำ เจ้ากรมกำลังพลทหารอากาศ ได้เป็นประธานในการบรรยายสร้างการรับรู้เกี่ยวกับระบบการบริหารจัดการข้าราชการพลเรือนกลาโหมกองทัพอากาศ ซึ่งได้รับความสนใจจากกำลังพลเป็นจำนวนมาก
พลอากาศตรี วิโรช พยาน้อย รองเจ้ากรมกำลังพลทหารอากาศ ได้ชี้แจงถึงวัตถุประสงค์หลักของการบรรจุข้าราชการพลเรือนกลาโหม ซึ่งถือเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของกระทรวงกลาโหม เพื่อลดจำนวนข้าราชการทหารลง โดยกองทัพอากาศจะดำเนินการสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุบุคคลภายนอก รวมถึงเปิดโอกาสให้กำลังพลทหารปัจจุบันสามารถโอนเปลี่ยนประเภทมาเป็นข้าราชการพลเรือนกลาโหมได้
การบรรจุข้าราชการพลเรือนกลาโหมนี้ จะเน้นในตำแหน่งที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะทาง หรือสายงานวิชาชีพ อาทิ ด้านการแพทย์ เภสัชกรรม งานงบประมาณ การบัญชี หรือตำแหน่งครู-อาจารย์ เป็นต้น เพื่อให้กองทัพยังคงมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
สำหรับเป้าหมายระยะยาว การบรรจุข้าราชการพลเรือนกลาโหมทดแทนกำลังพลทหารนี้ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์และการพัฒนากองทัพ ตามแผนระยะ 12 ปี ระหว่าง พ.ศ. 2569-2580 โดยกระทรวงกลาโหมได้กำหนดเป้าหมายภาพรวมสำหรับ 3 เหล่าทัพไว้ดังนี้:
- ระยะ 3 ปีแรก (พ.ศ. 2569-2571): บรรจุข้าราชการพลเรือนกลาโหมให้ได้ร้อยละ 5 ของอัตราโครงสร้างข้าราชการพลเรือนกลาโหมที่มีอยู่
- เป้าหมายปี พ.ศ. 2590: เพิ่มสัดส่วนการบรรจุให้สูงถึงร้อยละ 80 ของอัตราโครงสร้างข้าราชการพลเรือนกลาโหม
อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขสำคัญของการดำเนินการนี้คือ การปรับปรุงโครงสร้างและอัตรากำลังของหน่วย ต้องไม่ทำให้จำนวนข้าราชการในภาพรวมเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึงการบรรจุพลเรือนจะเข้ามาทดแทนตำแหน่งทหารที่ว่างลงจากการเกษียณอายุหรือการลดกำลังพลตามแผนเท่านั้น
นาวาอากาศโท ยุทธพงษ์ นิลจินดา หัวหน้าแผนกโครงการและงบประมาณ กองนโยบายและแผน สำนักนโยบายและบริหารกำลังพล กรมกำลังพลทหารอากาศ ได้ร่วมให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ผู้เข้าฟัง โดยย้ำว่าวัตถุประสงค์ของการแยกประเภทกำลังพลให้สอดคล้องกับลักษณะงานนี้ จะช่วยรักษาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางให้อยู่ในตำแหน่งและหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยงาน รองรับความก้าวหน้าในสายงานสนับสนุน โดยที่ไม่ได้ทำให้งบประมาณเพิ่มขึ้น และที่สำคัญ จะไม่ส่งผลกระทบต่อข้าราชการทหารที่มีอยู่ในปัจจุบัน ทั้งในด้านตำแหน่ง สิทธิ และสวัสดิการต่างๆ
การดำเนินการทั้งหมดนี้ เป็นไปตามแผนปรับลดกำลังพลของกระทรวงกลาโหม สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งหวังให้กองทัพไทยมีขนาดที่เหมาะสม มีความคล่องตัว และใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อภารกิจด้านความมั่นคงและการพัฒนาประเทศในอนาคต