สมุทรปราการ – เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความประหลาดใจและสงสัยเป็นอย่างมาก เมื่อรถยนต์คันหนึ่งเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงที่บริเวณห้องเครื่อง หลังจากเพิ่งนำรถเข้าตรวจเช็กสภาพและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ศูนย์บริการมาได้เพียงไม่กี่วัน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 บริเวณถนนเทพรัตน ช่องทางด่วน ฝั่งขาเข้า ในพื้นที่หลักกิโลเมตรที่ 15 ใกล้เคียงกับศูนย์บริการตำรวจทางหลวงบางพลี ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

หลังจากได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนตำบลบางโฉลง พร้อมด้วยอาสาสมัครกู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง ได้ระดมรถดับเพลิงจำนวน 3 คัน เข้าระงับเหตุอย่างเร่งด่วน เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบเพลิงกำลังลุกไหม้รุนแรงที่บริเวณห้องเครื่องของรถยนต์เก๋งคันหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่อยู่ใกล้เคียงได้นำถังดับเพลิงชนิดเคมีมาช่วยดับไฟในเบื้องต้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะใช้หัวฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงอย่างเต็มที่

เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้สำเร็จ ก่อนที่เปลวไฟจะลุกลามเข้าสู่ห้องโดยสาร จากการตรวจสอบในภายหลัง พบว่าห้องเครื่องของรถยนต์คันดังกล่าวได้รับความเสียหายอย่างหนัก

จากการสอบถาม น.ส.อโนทัย อายุ 49 ปี เจ้าของรถ เปิดเผยด้วยความตกใจว่า รถยนต์คันนี้เพิ่งนำไปเข้าศูนย์บริการ เพื่อรับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และตรวจเช็กสภาพตามรอบการใช้งานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง หลังจากนั้นก็ใช้งานรถมาโดยปกติ

น.ส.อโนทัย เล่าต่อว่า ก่อนเกิดเหตุ เธอขับรถออกมาจากที่ทำงานในย่านบางปะกง เมื่อมาถึงบริเวณก่อนจุดเกิดเหตุไม่ไกล สังเกตเห็นไฟรูปเครื่องยนต์ปรากฏขึ้นที่หน้าปัด ไม่นานหลังจากนั้น ก็เริ่มได้กลิ่นเหม็นไหม้ และมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากบริเวณใต้ฝากระโปรงหน้า ด้วยความตกใจ เธอจึงรีบนำรถเข้าจอดข้างทางและวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่อยู่ใกล้เคียง

เจ้าของรถยืนยันว่า ไม่เคยมีการดัดแปลงสภาพรถ หรือดัดแปลงอุปกรณ์ไฟฟ้าใดๆ ทั้งสิ้น เป็นรถยนต์ที่ใช้งานแบบเดิมๆ จากโรงงาน และที่สำคัญ รถคันนี้มีประกันภัยชั้น 1

สิ่งที่ทำให้ น.ส.อโนทัย ต้องประหลาดใจและกังวลใจอย่างมาก คือการประสานงานกับบริษัทประกันภัย ในครั้งแรก ตัวแทนของบริษัทประกันแจ้งว่าไม่สามารถคุ้มครองความเสียหายจากไฟไหม้ในครั้งนี้ได้ โดยให้เหตุผลว่า ความคุ้มครองกรณีไฟไหม้จะครอบคลุมเฉพาะกรณีที่เกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวสร้างความงุนงงให้กับ น.ส.อโนทัย เป็นอย่างมาก เนื่องจากในกรมธรรม์ประกันภัยชั้น 1 ที่เธอถืออยู่ ระบุไว้ชัดเจนว่าให้ความคุ้มครองความเสียหายจากกรณีรถยนต์สูญหายและไฟไหม้ โดยมีวงเงินคุ้มครองสูงถึง 520,000 บาท

ผู้สื่อข่าวได้ขอต่อสายพูดคุยกับตัวแทนบริษัทประกันภัยอีกครั้ง เพื่อสอบถามถึงเหตุผลในการปฏิเสธการเคลมในครั้งแรก ซึ่งในครั้งนี้ ทางตัวแทนประกันภัยได้ขอตรวจสอบข้อมูลอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้ติดต่อกลับไปยังผู้เสียหาย พร้อมแจ้งยืนยันว่า รถยนต์คันดังกล่าวอยู่ในความคุ้มครองของบริษัทประกันภัย และในที่สุด ตัวแทนประกันภัยก็ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตรวจสอบและเปิดเคลมสินไหมให้กับทางผู้เสียหายเรียบร้อยแล้ว

เหตุการณ์นี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจสอบรายละเอียดความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัยอย่างละเอียด และเป็นอุทาหรณ์ว่า แม้รถจะเพิ่งเข้าศูนย์บริการมา ก็อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้