นาทีระทึก! บั้งไฟยักษ์ ‘แอ๊ดเทวดา’ ระเบิดคาฐานปล่อยกลางงานบุญบั้งไฟยโสธร โชคดีไร้ผู้บาดเจ็บ
นาทีระทึก! บั้งไฟยักษ์ ‘แอ๊ดเทวดา’ ระเบิดคาฐานปล่อยกลางงานบุญบั้งไฟยโสธร โชคดีไร้ผู้บาดเจ็บ
ยโสธร, 13 พฤษภาคม 2568 – เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความตกใจและระทึกขวัญกลางงานประเพณีบุญบั้งไฟในพื้นที่จังหวัดยโสธร เมื่อบั้งไฟขนาดใหญ่ที่กำลังจะถูกจุดขึ้นฟ้าเพื่อเฉลิมฉลองตามประเพณี เกิดระเบิดอย่างรุนแรงบริเวณฐานปล่อย ทำให้ผู้ร่วมงานและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงต้องวิ่งหนีเอาตัวรอดกันอย่างอลหม่าน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ในระหว่างการแข่งขันหรือการจุดบั้งไฟในงานประเพณีบุญบั้งไฟ ณ พื้นที่กุดกุง จังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการจัดงานบุญบั้งไฟอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี บั้งไฟลำดังกล่าวเป็นบั้งไฟขนาดใหญ่ที่รู้จักในชื่อ "แอ๊ดเทวดา" ซึ่งเป็นชื่อที่ทีมผู้จัดทำตั้งขึ้นและหวังว่าจะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าได้อย่างสง่างาม
ตามประเพณีบุญบั้งไฟของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นพิธีกรรมที่สืบทอดมายาวนาน เพื่อบูชาพญาแถน หรือเทพเจ้าแห่งฝน ขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของการเพาะปลูก นอกจากนี้ยังเป็นเวทีให้ชาวบ้านและทีมงานได้ประชันฝีมือในการทำบั้งไฟ โดยวัดกันที่ความสูงและความนานของการลอยอยู่บนท้องฟ้า
แต่ในบางครั้ง ด้วยขนาดและความแรงของบั้งไฟขนาดใหญ่ ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยผู้ใช้ TikTok ชื่อ @anutida_nok เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 แสดงให้เห็นบรรยากาศก่อนเกิดเหตุ ทีมงานกำลังเตรียมความพร้อมในการจุดชนวนบั้งไฟ ‘แอ๊ดเทวดา’ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนฐานปล่อย
เมื่อชนวนถูกจุดและไหม้ไปถึงส่วนของดินปืน แทนที่บั้งไฟจะพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างที่คาดหวัง กลับเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นอย่างกะทันหันบริเวณฐานปล่อย ตัวบั้งไฟแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ ในอากาศใกล้พื้นดิน เศษชิ้นส่วนอาจกระเด็นไปในทิศทางต่างๆ
ภาพที่ปรากฏต่อมาคือความโกลาหล ผู้คนที่ยืนชมอยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะยืนอยู่ในระยะที่ปลอดภัยในกรณีที่บั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าตามปกติ ต่างตกใจและวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันอย่างรวดเร็ว ต่างคนต่างหาที่กำบังหรือวิ่งออกห่างจากจุดเกิดเหตุให้มากที่สุด เสียงตะโกนและเสียงฝีเท้าดังระงมท่ามกลางฝุ่นควันจากการระเบิด
เหตุการณ์ดังกล่าวแม้จะสร้างความตกใจอย่างมาก แต่สิ่งที่น่ายินดีอย่างยิ่งคือรายงานเบื้องต้นระบุว่า ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์บั้งไฟระเบิดในครั้งนี้ อาจมีเพียงความตกใจและรอยฟกช้ำเล็กน้อยจากการวิ่งหนี ซึ่งถือเป็นความโชคดีอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากความรุนแรงของการระเบิด
เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของมาตรการความปลอดภัยในการจัดงานประเพณีที่มีการใช้พลุ ดอกไม้ไฟ หรือวัตถุระเบิดต่างๆ แม้จะเป็นประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน แต่ความปลอดภัยของผู้ร่วมงานและชาวบ้านในพื้นที่ควรเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม ประเพณีบุญบั้งไฟก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชาวอีสาน เป็นการรวมญาติพี่น้องในท้องถิ่นและแสดงออกถึงความสามัคคี ซึ่งฝ่ายจัดงานและผู้เกี่ยวข้องคงจะต้องทบทวนมาตรการด้านความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งขึ้นในอนาคต เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก และเพื่อให้ประเพณีอันดีงามนี้ยังคงอยู่คู่ชุมชนได้อย่างปลอดภัย