กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) และ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ได้จัดพิธีลงนามในข้อตกลงการร่วมทุน เพื่อจัดตั้ง “บริษัท เนชันแนล ดีเฟนส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ NDC” โดยมี พล.อ.พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ เป็นประธานในพิธี

การลงนามครั้งสำคัญนี้ มี พลเอก ดร.ชรัติ อุ่มสัมฤทธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ และ ดร.ณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ร่วมลงนามอย่างเป็นทางการ

วัตถุประสงค์หลักของการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน NDC คือ การดำเนินธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ที่มุ่งเน้นสำหรับภารกิจด้านความมั่นคง และสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย

การก่อตั้ง NDC ในครั้งนี้ ถือเป็นการบูรณาการจุดแข็งที่โดดเด่นของทั้งสององค์กรเข้าด้วยกัน โดย สทป. ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ มีความรู้และความเชี่ยวชาญอย่างลึกซึ้งด้านการวิจัยและพัฒนาระบบงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ขณะที่ อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม หรือ ITEL เป็นภาคเอกชนที่มีศักยภาพสูง มีโครงข่ายโทรคมนาคมที่ทันสมัยระดับประเทศ และมีประสบการณ์อันยาวนานในธุรกิจ ICT

การผสานความเชี่ยวชาญและทรัพยากรระหว่าง สทป. และ ITEL ผ่านบริษัท NDC จะช่วยให้สามารถพัฒนาและส่งมอบเทคโนโลยีสารสนเทศและโซลูชันด้านความปลอดภัยที่สามารถตอบสนองความต้องการของหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานด้านความมั่นคงได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร

นอกจากนี้ การร่วมมือดังกล่าวยังเปิดโอกาสในการต่อยอดเทคโนโลยีไปสู่ระบบสื่อสารเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ การบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และการพัฒนาแพลตฟอร์ม รวมถึงโซลูชันดิจิทัลที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง

NDC ยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและขยายผลแพลตฟอร์มเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ที่มีความปลอดภัยสูง และสามารถรองรับภารกิจด้านความมั่นคงในระดับชาติได้อย่างยั่งยืน โดยคาดหวังให้ NDC เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีความมั่นคงของชาติ ทั้งในสถานการณ์ปัจจุบันและการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับอนาคต

ผู้บริหารทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่า บริษัท เนชันแนล ดีเฟนส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จะมีบทบาทสำคัญในการวางโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีให้กับประเทศ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการรับมือกับภัยคุกคามจากภายนอกเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับความปลอดภัยและความมั่นคงแห่งชาติได้อย่างยั่งยืนต่อไป