เปิดโปงขบวนการฮั้วเลือก สว.! พยานให้ปากคำ กกต.-ดีเอสไอ แฉเส้นทางเงินสด 2 หมื่น และเบื้องลึกการจัดตั้งคะแนน

กรุงเทพฯ – ความคืบหน้าการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ปี 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. ซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมด้วย ได้ทำการสอบปากคำพยานสำคัญในคดีที่ถูกร้องเรียนว่ามีการฮั้วการเลือก สว. โดยหนึ่งในพยานซึ่งเดินทางมาพร้อมกับนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น บุรีรัมย์ ได้เปิดเผยรายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกระบวนการและเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้อง

พยานรายดังกล่าวให้การต่อเจ้าหน้าที่นานกว่า 6 ชั่วโมง โดยระบุว่า ตนได้ให้ปากคำถึงเส้นทางการเงินสดจำนวน 20,000 บาท ที่ได้รับมาในซองขาว ซึ่งเป็นเงินที่ไม่มีใครกล้าออกมายอมรับ พยานยืนยันว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับเงินดังกล่าว แต่มีความไม่สบายใจและตัดสินใจไม่ให้ความร่วมมือในกระบวนการฮั้ว โดยเก็บเงินจำนวนนี้ไว้ถึง 3 เดือน และได้ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนที่ดีเอสไอจะดึงข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือไปและเรียกเข้าให้ปากคำ

พยานได้เปิดโปงถึงกระบวนการฮั้วคะแนนว่า หลังจากได้รับเงินแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการให้ไปกาคะแนนตามที่กำหนด โดยผู้ที่ให้ความร่วมมือจะมีคะแนนเป็นศูนย์ในการลงคะแนนให้ตัวเอง เนื่องจากระบบที่ถูกวางไว้เป็นการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และการกาคะแนนให้ตัวเองจะทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน เป้าหมายของขบวนการนี้คือการจัดตั้งผู้สมัคร สว. จำนวน 140-170 คน

พยานกล่าวเสริมว่า ผู้ที่เข้าร่วมกระบวนการฮั้วจะได้รับการยืนยันว่า คะแนนจะมาจากกลุ่มอาชีพอื่นและจังหวัดอื่น โดยไม่ต้องกังวล และทุกคนมีโอกาสได้เป็น สว. หรือหากไม่ได้ ก็จะมีตำแหน่งอื่นรองรับ เช่น ผู้เชี่ยวชาญ ชำนาญการ หรือผู้ช่วย

เกี่ยวกับบรรยากาศในการรวมกลุ่ม พยานระบุว่า ตนไม่รู้จักกับผู้ที่มาติดต่อโดยตรง เพียงแต่ได้รับการชักชวนให้เข้าร่วมกลุ่ม โดยมีการอ้างว่ามีเครือข่ายที่สามารถช่วยเหลือเรื่องคะแนนได้ การรวมกลุ่มเกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่ง มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก และมีการย้ายไปยังโรงแรมอื่นเพื่อทำการกาโพยคะแนน จากนั้นจึงย้ายไปพักที่โรงแรมอีกแห่งหนึ่ง เงิน 20,000 บาทในซองถูกวางไว้ที่โต๊ะเพื่อให้ผู้เข้าร่วมหยิบไปเอง โดยอ้างว่าเป็นค่าเดินทาง

เมื่อถูกถามว่าเห็นนักการเมืองอยู่ในห้องโรงแรมด้วยหรือไม่ พยานยืนยันว่าไม่เห็น มีเพียงแต่ผู้สมัคร สว. ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม พยานระบุว่า เห็นผู้ที่ปัจจุบันได้รับเลือกเป็น สว. อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย และบุคคลเหล่านั้นมีคะแนนโดดเด่น ได้อันดับหนึ่งทั้ง 3 คนในกลุ่มอาชีพของตน และได้รับซองเงินจำนวน 20,000 บาทเช่นเดียวกัน แม้จะไม่ทราบว่าในขั้นตอนต่อไปจะได้รับมากกว่านี้หรือไม่

พยานยังให้การถึงวิธีการกาคะแนนว่า ในวันที่ให้ไปกาโพยที่โรงแรม มีการเตรียมช่องว่างไว้ 20 ช่องตามกลุ่มอาชีพ และผู้เข้าร่วมถูกบังคับให้ใส่หมายเลขของผู้สมัครคนอื่นในช่องเหล่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ (13 พ.ค. 2567) มีพยานเข้าให้ปากคำในคดีนี้รวม 3 คน โดยใช้เวลาในการสอบสวนนานกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเลือก สว. ที่กำลังดำเนินอยู่อย่างเข้มข้นโดย กกต. และ ดีเอสไอ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *