กรุงเทพฯ – วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 – กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประกาศปรับโครงสร้างภายในองค์กรครั้งสำคัญ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ควบคู่ไปกับการดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชนที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่เหล่านั้น

ภายใต้การนำของ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนงานตามพระราชกฤษฎีกาที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งจากการประชุมดังกล่าว ได้เห็นชอบให้มีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นโดยเฉพาะ

นายอรรถพล ได้เน้นย้ำถึงภารกิจหลักสองด้านของกรมอุทยานฯ คือ ด้านแรก การอนุรักษ์ ฟื้นฟู และปกป้องพื้นที่ป่าให้คงความสมบูรณ์เพื่อประโยชน์ด้านการอนุรักษ์ การศึกษา และการท่องเที่ยว และด้านที่สอง ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน คือ การดูแลประชาชนราว 4,042 หมู่บ้าน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4.257 ล้านไร่ ที่อาศัยและทำกินอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ ให้สามารถเข้าถึง “สิทธิ” ในการอยู่อาศัยและประกอบอาชีพได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและกระบวนการที่กำหนด

เพื่อตอบสนองภารกิจด้านที่สองอย่างมีประสิทธิภาพ ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้จัดตั้ง “สำนักพัฒนาชุมชนพื้นที่ป่าอนุรักษ์และกิจการพิเศษ” ขึ้น โดยเป็นการโยกย้ายภาระงานและบุคลากรบางส่วนจากหน่วยงานเดิม เช่น ส่วนส่งเสริมและพัฒนาชุมชนในพื้นที่ต้นน้ำ และกลุ่มงานที่เกี่ยวข้อง มารวมกันภายใต้โครงสร้างใหม่นี้ ซึ่งจะเป็นการปรับภายใน โดยไม่มีการเพิ่มหน่วยงาน อัตรากำลัง หรือของบประมาณเพิ่มเติมแต่อย่างใด

เป้าหมายหลักของการจัดตั้งสำนักใหม่นี้ คือ การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและชุมชนในเขตป่าอนุรักษ์ ให้ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาในด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานที่จำเป็น การเข้าถึงการศึกษาและบริการด้านสาธารณสุข การส่งเสริมอาชีพทั้งในภาคการเกษตรและนอกภาคการเกษตร รวมถึงการวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เหมาะสมกับศักยภาพและข้อจำกัดของพื้นที่

การดำเนินงานในส่วนนี้ได้รับมอบหมายให้ นายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เป็นผู้กำกับดูแล และมี กพร.อส. เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนและประสานงาน เพื่อให้การช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตของ “คนอยู่กับป่า” เป็นไปอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรักษาความสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้ของชาติ