ชลบุรี – สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีโรงเรียนอาชีวะเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ถูกร้องเรียนเรื่องการออกวุฒิการศึกษาปลอมและใบเสร็จรับเงินเก๊ ยืนยันพบการทุจริตจริง โดยมีรองผู้อำนวยการของสถาบันเกี่ยวข้อง ซึ่งได้ลาออกไปแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลผู้เสียหายกว่า 50 ราย เพื่อหาแนวทางเยียวยาและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากกรณีที่กลุ่มผู้ปกครองและนักเรียนกว่า 50 ราย ได้รวมตัวกันเข้าแจ้งความร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปรือ จ.ชลบุรี และเตรียมยื่นเรื่องต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.บางละมุง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้ตรวจสอบและดำเนินการกับโรงเรียนอาชีวศึกษาเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ชลบุรี ภายหลังถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมทุจริต ออกวุฒิการศึกษาปลอม และใบเสร็จรับเงินปลอมให้กับนักเรียน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่หลงเชื่อและจ่ายเงินไปแล้วจำนวนมาก ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า ทางสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้รับทราบเรื่องร้องเรียนดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้มีการตรวจสอบโดยเร่งด่วน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าสถานศึกษาที่ถูกกล่าวอ้างถึงคือสถาบันอาชีวศึกษาเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดชลบุรีจริง

นายยศพล กล่าวต่อว่า จากข้อมูลที่ได้รับจากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริงในเรื่องของการรับเงินค่าธรรมเนียมการศึกษา และการออกเอกสารทางการศึกษาอันเป็นเท็จ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการออกวุฒิการศึกษาปลอม และใบเสร็จรับเงินปลอม และยังพบข้อมูลว่ามีรองผู้อำนวยการของสถาบันแห่งนี้เข้ามาเกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าว

ในส่วนของการดำเนินการ ทาง สอศ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ส่งนางสมฤดี ฉิมมุสิก ผู้อำนวยการสำนักบริหารการอาชีวศึกษาเอกชน พร้อมคณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสถานศึกษาดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดเพิ่มเติม

ด้านนางสมฤดี ฉิมมุสิก ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทางสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดชลบุรี กำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ โดยยอมรับว่าก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทาง สอศ. ก็เคยเข้าตรวจสอบสถาบันแห่งนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากได้รับการร้องเรียนในประเด็นที่คล้ายคลึงกัน คือการออกใบระเบียนแสดงผลการเรียน (Transcript) ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) แต่พบว่ารายชื่อในใบระเบียนนั้นเป็นชื่อของเด็กที่ไม่ได้เข้าเรียนในสถาบันดังกล่าวจริง ซึ่งจากกรณีดังกล่าว ทำให้ทาง สอศ. ได้มีการเรียกคืนเงินอุดหนุนรายหัวที่ได้จัดสรรให้กับสถาบันแห่งนี้คืนแล้ว

สำหรับกรณีล่าสุดที่กำลังตรวจสอบอยู่นี้ เกี่ยวข้องกับนักเรียนในระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งเก็บรวบรวมข้อมูลรายละเอียดของผู้เสียหายทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 50 ราย และอาจมีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก

อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลจากทางสถาบันว่ารองผู้อำนวยการที่ถูกระบุว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในครั้งนี้ ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งไปตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 ที่ผ่านมาแล้ว

นางสมฤดี กล่าวทิ้งท้ายว่า ในส่วนของการดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญคือการหามาตรการเยียวยาและช่วยเหลือกลุ่มนักเรียนผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากการทุจริตในครั้งนี้ ทาง สอศ. จะเร่งรวบรวมข้อมูลทั้งหมดอย่างละเอียด เพื่อนำมาพิจารณาและหารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุด เพื่อหาทางออกและแก้ไขปัญหาให้กับนักเรียนผู้เสียหายอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมต่อไป