สะเทือนใจ! พ่อเลี้ยงสารภาพฆ่าลูกเลี้ยง 2 ขวบ ยัดกระสอบทิ้งน้ำ อ้างรำคาญเสียงร้อง

สะเทือนใจ! พ่อเลี้ยงสารภาพฆ่าลูกเลี้ยง 2 ขวบ ยัดกระสอบทิ้งน้ำ อ้างรำคาญเสียงร้อง

เชียงราย – เรื่องราวสะเทือนใจ เมื่อพ่อเลี้ยงวัย 35 ปี สารภาพก่อเหตุฆ่าลูกเลี้ยงหญิงวัยเพียง 2 ขวบ อย่างโหดเหี้ยม ก่อนนำศพยัดกระสอบโยนทิ้งลำน้ำคำ อ้างสาเหตุจากความรำคาญเสียงเด็กร้องไห้ ตำรวจคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางความหดหู่ของครอบครัวและชาวบ้าน

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สงกรานต์ สันวงค์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง ได้นำตัว นายชำนาญ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาในคดีสะเทือนขวัญ ฆาตกรรมเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของตนเอง ไปชี้จุดและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ บ้านพักในพื้นที่ ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาลงมือทำร้ายเด็กจนเสียชีวิต

คดีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความว่า ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 2 ขวบ ได้หายตัวไปจากบ้านพักใน ต.แม่สลองใน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.แม่ฟ้าหลวง ได้เร่งทำการสอบสวนและออกติดตาม โดยมุ่งเป้าไปที่ นายชำนาญ พ่อเลี้ยงของเด็ก และเป็นสามีใหม่ของนางนามู แม่ของ ด.ญ.บี เนื่องจากพบพฤติกรรมน่าสงสัยและได้หลบหนีออกจากบ้านไปในช่วงที่เด็กหายตัวไป

เจ้าหน้าที่ใช้เวลาติดตามจนสามารถควบคุมตัวนายชำนาญได้ในวันที่ 11 พฤษภาคม บริเวณถนนสาธารณะในบ้านห้วยผึ้ง เบื้องต้นนายชำนาญให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่รู้เห็นเรื่องที่เด็กหายไป ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การของนางนามู ผู้เป็นแม่ ที่ระบุว่า นายชำนาญมีพฤติกรรมชอบทำร้ายเด็ก และเคยอุ้มลูกไปในช่วงกลางดึกวันที่ 8 พฤษภาคม ต่อเนื่องถึงเช้ามืดวันที่ 9 พฤษภาคม

ระหว่างการสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสารเสพติดในร่างกายของนายชำนาญ ซึ่งผลตรวจพบสารเสพติดทั้งเมทแอมเฟตามีนและมอร์ฟีน จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนในข้อหาเสพยาเสพติด ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนางนามู มาสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากสงสัยว่าอาจมีส่วนรู้เห็น

การสืบสวนสอบสวนยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น จนกระทั่งในวันที่ 12 พฤษภาคม เวลาประมาณ 16.00 น. นายชำนาญได้ยอมจำนนต่อหลักฐานและแรงกดดัน ยอมเปิดปากสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างหมดเปลือก

นายชำนาญให้การว่า เมื่อคืนวันที่ 8 พฤษภาคม เวลาประมาณ 22.00 น. ขณะที่ ด.ญ.บี ร้องไห้เสียงดัง อาจสร้างความรำคาญให้แก่ตนเอง จึงได้อุ้มเด็กจากห้องเก็บของเข้าไปในบ้าน แล้วลงมือทำร้ายอย่างโหดเหี้ยม ด้วยการโยนเด็กลงพื้นถึง 5 ครั้ง จนเด็กแน่นิ่งและเสียชีวิตในที่สุด

หลังก่อเหตุสลด นายชำนาญได้นำร่างไร้วิญญาณของลูกเลี้ยงใส่กระสอบป่าน จากนั้นจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน โดยวางกระสอบที่บรรจุศพไว้บริเวณที่พักเท้า ขับไปจอดที่บริเวณสะพานข้ามลำน้ำคำ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 5 กิโลเมตร ก่อนจะอุ้มกระสอบศพไปโยนทิ้งลงในลำน้ำคำ เพื่ออำพรางคดี

หลังรับฟังคำสารภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายชำนาญไปยังจุดที่ทิ้งศพ และประสานทีมกู้ภัยร่วมกันออกค้นหาในลำน้ำคำ จนกระทั่งพบร่างของ ด.ญ.บี ในสภาพอันน่าเวทนา อยู่ในลำน้ำ ห่างจากจุดที่ถูกทิ้งประมาณ 500 เมตร พนักงานสอบสวนและแพทย์ประจำโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวงได้ร่วมกันทำการชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนของกฎหมาย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่น และปิดบังการตาย โดยการ ซ่อนเร้น ย้าย ทำลาย เพื่อปิดบัง การตาย เหตุที่ทำให้ตาย” เพิ่มเติมแก่นายชำนาญ และได้ควบคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้

นางนาตยา แซ่ซัว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านห้วยผึ้ง เปิดเผยด้วยความเสียใจว่า หลังได้รับแจ้งเด็กหาย ก็ได้ช่วยชาวบ้านระดมกำลังตามหา เพราะทราบว่าเด็กเจ็บขาไม่น่าจะเดินไปไหนได้เอง ต่อมาแม่เด็กจึงไปแจ้งความ ส่วนพ่อเลี้ยงกลับหนีไปทางแม่สาย จนกระทั่งพี่สาวของนายชำนาญได้เกลี้ยกล่อมให้มามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่กลับมาทราบเรื่องน่าเศร้าในภายหลังว่าเด็กถูกทำร้ายและนำศพไปทิ้ง โดยนายชำนาญมีประวัติพัวพันยาเสพติด รู้สึกเสียใจมากที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับเด็กน้อยที่น่าสงสาร ซึ่งเป็นเด็กปากแหว่งเพดานโหว่

ด้านนายจะวะ พ่อแท้ๆ ของเด็ก เล่าถึงความรู้สึกอันหดหู่ เมื่อได้รับแจ้งว่าลูกสาวหายไป และได้มาช่วยตามหาจนกระทั่งพบร่างของลูกในลำน้ำคำ ยอมรับว่าทำอะไรไม่ถูก รู้สึกเสียใจและโกรธมากที่ผู้ต้องหาทำร้ายลูกได้อย่างลงคอ ทั้งๆ ที่หากเลี้ยงไม่ไหวก็ควรจะบอกให้ตนเองเอาไปเลี้ยง แต่กลับไม่ยอม และทั้งคู่ยังมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งเป็นสาเหตุให้ตนเองเลิกกับอดีตภรรยา แต่ไม่คิดว่าจะโหดเหี้ยมทำร้ายเด็กได้ถึงขนาดนี้ โดยเฉพาะกับลูกสาวที่น่าสงสารและมีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ อยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับการลงโทษขั้นสูงสุดตามกฎหมาย

มีรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนเกิดเหตุสลด นายชำนาญและนางนามู ได้เสพยาเสพติดด้วยกัน ก่อนจะเข้าไปพักผ่อนในห้องนอน และได้นำเด็กออกมาอยู่ด้านนอก ซึ่งคาดว่าเด็กได้ร้องไห้เสียงดัง จนทำให้นายชำนาญเกิดความรำคาญ และเป็นชนวนเหตุให้ลงมือทำร้ายเด็กอย่างโหดเหี้ยมดังกล่าว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุในทุกฐานความผิดตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *