COCOCO โชว์ผลงานแกร่ง Q1/68 รายได้พุ่งทะลุ 1.5 พันลบ. พร้อมทุ่ม 430 ลบ. ผุดโรงงานฟิลิปปินส์ เสริมทัพผลิตรับดีมานด์โลก
กรุงเทพฯ – นายวรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO เปิดเผยถึงผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 (มกราคม-มีนาคม) ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวมสูงถึง 1,550.55 ล้านบาท เติบโตอย่างน่าพอใจ 10.94% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
การเติบโตของรายได้หลักมาจากยอดขายผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวที่ขยายตัวตามแนวโน้มตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้น รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงที่ยังคงได้รับความนิยม นอกจากนี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและเพิ่มฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการเติบโตอย่างโดดเด่นในภูมิภาคอเมริกาและภูมิภาคเอเชีย โดยมีประเทศจีนเป็นตลาดสำคัญ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า รายได้รวมปรับตัวลดลง 11.71% ซึ่งเป็นไปตามปัจจัยด้านฤดูกาลของธุรกิจเครื่องดื่ม โดยไตรมาสแรกมักเป็นช่วง Low Season ส่งผลให้คำสั่งซื้อจากลูกค้าบางตลาดลดลงชั่วคราว แต่คาดว่าคำสั่งซื้อจะฟื้นตัวและกลับมาเติบโตอีกครั้งในช่วงไตรมาสถัดไปซึ่งเป็น High Season ของธุรกิจ
ในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นของรายได้จากการขายและบริการในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 17.99% ลดลงจาก 26.66% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 17.52% การเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับผลกระทบชั่วคราวจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Niño) และการเพิ่มขึ้นของการจำหน่ายผลิตภัณฑ์กะทิซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นแตกต่างจากผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว แม้ว่ารายได้จากผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวและกะทิจะลดลงตามฤดูกาลในช่วง Low Season
สำหรับกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 1 ปี 2568 อยู่ที่ 64.86 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากยอดขายผลิตภัณฑ์กะทิที่สูงเกินคาด แม้จะอยู่ในช่วง Low Season ของธุรกิจเครื่องดื่ม ประกอบกับปัจจัยด้านต้นทุนดังกล่าว
นายวรวัฒน์ กล่าวเสริมถึงก้าวสำคัญเชิงกลยุทธ์ของบริษัทฯ โดยเปิดเผยถึงการลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์ มูลค่าประมาณ 430 ล้านบาท เพื่อสร้างฐานการผลิตใหม่ รองรับการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์กะทิและมะพร้าวให้สอดคล้องกับกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น และตอบสนองต่อยอดคำสั่งซื้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในปัจจุบันและอนาคต การลงทุนครั้งนี้ดำเนินการผ่านการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ในประเทศฟิลิปปินส์ ภายใต้ชื่อ “Novococonut Inc.” ด้วยทุนจดทะเบียน 60 ล้านเปโซฟิลิปปินส์ โดยบริษัทฯ จะถือหุ้นในสัดส่วน 100%
การตัดสินใจลงทุนในฟิลิปปินส์ถือเป็นการเสริมความแข็งแกร่งด้านศักยภาพการผลิต เพื่อรองรับความต้องการของตลาดโลกที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดหลักอย่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่มีอุปสงค์ในผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพเติบโตสูง สอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสินค้าจากธรรมชาติและความยั่งยืน
ฐานการผลิตแห่งใหม่นี้ไม่เพียงช่วยให้ COCOCO สามารถตอบสนองคำสั่งซื้อจากลูกค้าทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง แต่ยังเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล โดยเฉพาะในตลาดที่มีมาตรฐานการผลิตและข้อกำหนดด้านคุณภาพที่เข้มงวด เช่น สหรัฐฯ และยุโรป การมีฐานการผลิตใกล้แหล่งวัตถุดิบสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ เพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน และเสริมสร้างความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ให้กับ COCOCO อย่างยั่งยืนในระยะยาว คาดว่าการลงทุนนี้จะช่วยหนุนรายได้และอัตรากำไรของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพในอนาคต