สุดสลด! เค้นสอบลูกชายป่วยจิตเวช-ติดยา ต้องสงสัยฆ่าพ่อแท้ๆ คาบ้านเช่า พิจิตร ‘ตีเนียน’ แจ้งกู้ภัยเอง
พิจิตร – เกิดเหตุสะเทือนใจในพื้นที่อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพทะเล ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตถูกฆาตกรรมภายในบ้านเช่า โดยผู้ที่แจ้งเหตุคือนายประวิทย์ฯ ลูกชายของผู้เสียชีวิตเอง ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวนอย่างละเอียด หลังพบพยานหลักฐานน่าสงสัยและมีประวัติความรุนแรงในครอบครัว
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ เนตรทอง ร้อยเวร สภ.โพทะเล ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยโพทะเลว่ามีผู้เสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรม เหตุเกิดที่บ้านเช่าในพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลโพทะเล อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพนายสมพงษ์ฯ อายุ 63 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนบริเวณด้านล่างของตัวบ้าน สภาพศพนอนราบกับพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเลือด และมีรอยเลือดกระเซ็นอยู่รอบๆ บริเวณที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบข้อมูลที่น่าตกใจว่า นายสมพงษ์ฯ ผู้เสียชีวิต ได้มาเช่าบ้านพักอาศัยอยู่กับนายประวิทย์ฯ ลูกชายวัย 36 ปี ซึ่งมีประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิตเวชและต้องรับประทานยามาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว นอกจากนี้ ยังพบว่านายประวิทย์ฯ มีประวัติการติดยาเสพติด ซึ่งเมื่อมีอาการกำเริบ มักจะทุบตีทำร้ายร่างกายนายสมพงษ์ฯ ผู้เป็นพ่อเป็นประจำ
เพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เมื่อคืนวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในช่วงเวลาประมาณ 00.00 น. ได้ยินเสียงทั้งสองพ่อลูกทะเลาะวิวาทกันอย่างรุนแรง และได้ยินเสียงร้องของผู้เป็นพ่อ ก่อนที่เสียงจะเงียบหายไป
ต่อมาในช่วงเช้าของวันที่ 13 พฤษภาคม เวลาประมาณ 06.00 น. นายประวิทย์ฯ ได้ขี่จักรยานออกไปแจ้งกับหน่วยกู้ภัยชาละวันในพื้นที่ว่ามีคนนอนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุจึงพบว่านายสมพงษ์ฯ เสียชีวิตแล้วจริง และพบร่องรอยการถูกทำร้ายอย่างชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าและศีรษะที่มีบาดแผลฉกรรจ์
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุและเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ได้ควบคุมตัวนายประวิทย์ฯ ลูกชายของผู้เสียชีวิตไว้ในฐานะผู้ต้องสงสัยทันที เนื่องจากพบว่ามีคราบเลือดติดอยู่ที่กางเกงและเสื้อผ้าของนายประวิทย์ฯ ประกอบกับสภาพบ้านพักที่ถูกปิดกลอนจากด้านในอย่างแน่นหนา ซึ่งแสดงว่าไม่มีบุคคลภายนอกเข้ามาภายในได้
ในเบื้องต้น นายประวิทย์ฯ ยังคงให้การภาคเสธ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด และส่งศพนายสมพงษ์ฯ ไปทำการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก เพื่อนำผลมาประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป