นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกโรงปกป้อง นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย กรณีโพสต์ข้อความไม่เหมาะสมผ่านเฟซบุ๊กหลังครอบครัวชนะการเลือกตั้งท้องถิ่น ชี้อาจเกิดจากความอัดอั้นที่ครอบครัวเผชิญแรงกดดันอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา เตรียมเรียก สส.มนัสนันท์ เข้าชี้แจงถึงสาเหตุของการโพสต์ดังกล่าวในช่วงบ่ายวันนี้

เมื่อเวลา 11.55 น. ของวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงกรณีที่นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานี พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวภายหลังจากที่ครอบครัวของนายมนัสนันท์ โดยเฉพาะการชนะการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีธัญบุรี และสภาเทศบาลตำบลธัญบุรี ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีการใช้ข้อความที่ไม่เหมาะสม

นายสรวงศ์ ชี้แจงว่า โพสต์ดังกล่าวถือเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของนายมนัสนันท์ ซึ่งทางพรรคอาจจะต้องมีการเรียกเจ้าตัวเข้ามาสอบถามถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องโพสต์ข้อความในลักษณะเช่นนั้น

เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อไปว่า ตนเองก็ได้ติดตามข่าวสารในเรื่องนี้ และคาดว่าน่าจะเกิดจากความอึดอัดของตัว สส.มนัสนันท์ เอง ซึ่งต้องยอมรับว่าในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ค่อนข้างหนักสำหรับครอบครัวหลีนวรัตน์ ทั้งจากกระแสในโซเชียลมีเดีย และแม้กระทั่งหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลงแล้ว ก็ยังมีการพูดจาในลักษณะที่ดูถูกผู้ที่ไปลงคะแนนเลือกตั้ง จึงเป็นไปได้ว่าการโพสต์นั้นอาจเกิดจากความอัดอั้นส่วนตัว

นายสรวงศ์ ระบุว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (13 พ.ค.) จะมีการประชุม สส.ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งตนจะถือโอกาสลองสอบถามนายมนัสนันท์ เกี่ยวกับประเด็นนี้โดยตรง

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า จะต้องมีการตักเตือนหรือแนะนำ สส.มนัสนันท์ หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ต้องสอบถามสาเหตุก่อน จะตักเตือนเลยทันทีก็อาจจะยังไม่เหมาะสม เพราะอาจเป็นความอัดอั้นส่วนตัวที่สะสมมา ซึ่งในฐานะคนปกติทั่วไปก็อาจจะทนกับแรงกดดันในลักษณะนี้นานๆ ไม่ได้ ตนจึงค่อนข้างที่จะเห็นใจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

ส่วนประเด็นที่ว่า เหตุการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง สส. ของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่จังหวัดปทุมธานีในอนาคตหรือไม่นั้น นายสรวงศ์ แสดงความเห็นว่า ต้องแยกแยะระหว่างการเมืองท้องถิ่นกับการเมืองระดับชาติออกจากกัน เพราะการเมืองระดับชาติมีความซับซ้อนและมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องมากกว่าการเมืองท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม หากถามว่ามีความเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่ ก็ต้องยอมรับว่ามีความเชื่อมโยงอยู่บ้าง ซึ่งทางพรรคเองก็จะต้องทำการบ้านในพื้นที่นี้ให้หนักขึ้น