ตำรวจจ่อออกหมายจับ 4 ผู้ต้องหา คดีฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ สวนปาล์มตรัง ล็อกเป้าผู้จัดการสวนข้างเคียง สอบเข้มแม่-เมีย
ตรัง – ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ ฆ่าเผานั่งยาง 3 ศพ ผู้จัดการสวนปาล์มและลูกน้อง ที่อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมยื่นขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 4 รายในล็อตแรก ขณะที่ล็อกเป้าผู้ต้องสงสัยสำคัญซึ่งเป็นผู้จัดการสวนปาล์มที่อยู่ติดกัน พร้อมคุมตัวแม่และภรรยาเข้าสอบปากคำอย่างละเอียด
จากกรณีกลุ่มคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายสุรเชษฐ์ หรือ โกเชษฐ์ อายุ 69 ปี ผู้จัดการสวนปาล์ม, นายอนันต์ อายุ 49 ปี และ นายวีระยุทธ อายุ 41 ปี ซึ่งทั้ง 2 รายเป็นลูกน้องของโกเชษฐ์ ก่อนจะนำร่างทั้งหมดไปเผานั่งยางในร่องคูน้ำ ภายในสวนปาล์มน้ำมัน ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง พร้อมนำรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปด้วย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าพบโครงกระดูกพร้อมร่างมนุษย์บางส่วนถูกเผานั่งยางและฝังดินอยู่ในสวนปาล์มน้ำมันห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 200 เมตร ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 สัปดาห์
ล่าสุด วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สถานีตำรวจภูธรสิเกา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง ได้นำหัวกระสุนปืนขนาด .45 (11 มม.) จำนวน 1 หัว ที่เก็บได้จากบริเวณที่พักร้าง ภายในสวนปาล์ม 36 ไร่ ซึ่งอยู่ติดกันกับสวนปาล์มน้ำมันที่ผู้ตายดูแลอยู่ เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียด คาดว่าที่พักดังกล่าว น่าจะเป็นจุดที่กลุ่มผู้ก่อเหตุลงมือใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายทั้งหมด ก่อนนำไปนั่งยางเผาในร่องคูน้ำ
นอกจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา กำลังตำรวจชุดสืบสวน ได้ทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาที่ห้องสืบสวน สภ.สิเกา เพื่อตรวจสอบว่าเป็นรถที่ใช้ในการก่อเหตุหรือหลบหนีหรือไม่
ประเด็นสำคัญที่นำไปสู่การคลี่คลายคดีคือ การนำตัวแม่และภรรยาของนายศุภกรณ์ หรือ บิน อายุ 37 ปี ผู้จัดการสวนปาล์มน้ำมัน 36 ไร่ที่อยู่ติดกัน และตกเป็นผู้ต้องสงสัยหัวโจกในคดีนี้ เข้ามาสอบปากคำอย่างละเอียด โดยมี พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง เป็นผู้ทำการสอบสวนด้วยตัวเอง นานนับชั่วโมง เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลและรายละเอียดกับกลุ่มคนร้ายทั้งหมด
เบื้องต้นจากการรวบรวมประจักษ์พยาน พยานแวดล้อม และพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่มีผลต่อรูปคดีและมีน้ำหนักเพียงพอ คณะทำงานและชุดคลี่คลายคดีอยู่ระหว่างการเร่งทำสำนวน เพื่อยื่นต่อศาลจังหวัดตรัง ขออนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย ในล็อตแรก
ขณะที่ความเคลื่อนไหวล่าสุด ระหว่างรอ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เดินทางมาร่วมติดตามความคืบหน้าทางคดี ได้มีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ได้ขับรถออกไปยังพื้นที่เป้าหมายแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นเป้าหมายใด
คาดว่าจากพยานหลักฐานและการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง จะนำไปสู่การออกหมายจับและติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนี้ได้อย่างรวดเร็ว.