กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนสภาพอากาศล่าสุด ระบุหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองถึงฝนตกหนัก โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง 46 จังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มีโอกาสเกิดฝนตกหนักถึงร้อยละ 70 ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ พร้อมแนะแนวทางเตรียมตัวรับมือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

รายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยาประจำวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 เผยว่า ประเทศไทยตอนบนยังคงได้รับอิทธิพลจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนที่แผ่ปกคลุมทะเลจีนใต้ ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันออกที่พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุม ทำให้มีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงจึงควรเพิ่มความระมัดระวังอันตราย

อันตรายที่ควรระวังได้แก่ การเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในอดีต โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจทำให้น้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ นอกจากนี้ ยังควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ หรือสิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงในช่วงที่เกิดฝนฟ้าคะนองและลมกระโชก

สำหรับภาคใต้ได้รับอิทธิพลจากลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่งผลให้มีฝนตกหนักบางแห่งในพื้นที่ ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มต่างๆ

ในส่วนของเกษตรกร กรมอุตุนิยมวิทยาได้แนะนำให้เสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมมาตรการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ ทุกคนควรดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง

สภาวะคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และคลื่นจะสูงมากกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ด้านอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และสูงมากกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจึงควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในช่วงนี้

ด้านสถานการณ์ฝุ่นละอองและหมอกควันในประเทศไทยตอนบน รายงานระบุว่าอยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง และมีแนวโน้มลดลงหรือคงที่ เนื่องจากมีฝนตกกระจายในหลายพื้นที่ ซึ่งช่วยชะล้างและลดการสะสมของฝุ่นละอองในอากาศ

พยากรณ์อากาศรายภาค (ตั้งแต่เวลา 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้)

• ภาคเหนือ: มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25°C สูงสุด 33-37°C
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 21-25°C สูงสุด 32-34°C
• ภาคกลาง: มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม อุณหภูมิต่ำสุด 23-25°C สูงสุด 32-34°C
• ภาคตะวันออก: มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25°C สูงสุด 30-33°C
• ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก): มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25°C สูงสุด 31-34°C
• ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก): มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25°C สูงสุด 31-34°C
• กรุงเทพมหานครและปริมณฑล: มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-26°C สูงสุด 31-32°C

ขอให้ประชาชนในทุกพื้นที่ติดตามข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เพื่อความปลอดภัยของตนเองและทรัพย์สิน