ทีมตะกร้อชายคู่ทีมชาติไทยโชว์ฟอร์มสุดยอด บุกเอาชนะมาเลเซีย คู่ปรับตลอดกาล ได้ถึงถิ่นกรุงกัวลาลัมเปอร์ 2-1 เซ็ต ในนัดชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์เซปักตะกร้อ แอสตาฟ เอเชียนคัพ 2025 ประเภทชายคู่มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนเจ้าถิ่นที่เต็มสนาม

การแข่งขัน เซปักตะกร้อ แอสตาฟ เอเชียนคัพ 2025 (ASTAF Asian Cup 2025) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10–18 พฤษภาคม 2568 ที่ติติวังสาอินดอร์สเตเดียม กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในรอบแรก ทีมตะกร้อไทยโชว์ฟอร์มแกร่ง เก็บชัยชนะ 3 นัดรวดโดยไม่เสียเซ็ต ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในฐานะแชมป์กลุ่ม B ได้อย่างสบายๆ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศของประเภท ตะกร้อคู่ชาย โดยในรอบรองชนะเลิศ ทีมตะกร้อไทยยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะ ทีมชาติอินโดนีเซีย ไปได้ 2-0 เซ็ต ด้วยสกอร์ 17-16 และ 17-15 ทำให้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับเจ้าภาพ มาเลเซีย ซึ่งในรอบรองชนะเลิศ มาเลเซียได้เอาชนะ ทีมชาติอินเดีย มาได้ 2-0 เซ็ต เช่นกัน ด้วยสกอร์ 15-12 และ 15-12

บรรยากาศในเกมรอบชิงชนะเลิศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีแฟนตะกร้อชาวมาเลเซียเข้ามาชมและเชียร์กันอย่างเต็มความจุสนาม ทีมตะกร้อไทย ส่ง “บอล บ้านบะขาม” ศิริศักดิ์ อนุลุน ลงคู่กับ “เก่ง บ้านบะขาม” บุญคุ้ม ทิพย์วงศ์ ออกสตาร์ทเซ็ตแรก เจ้าถิ่นมาเลเซียทำได้อย่างยอดเยี่ยม เก็บชัยชนะไปก่อน 15-7 ขึ้นนำ 1-0 เซ็ต

เข้าสู่เซ็ตที่สอง ทีมไทยมีการปรับทัพ ส่ง “แจ๊คร้อยแรงม้า” ธนพล ทรัพย์เย็น ลงมาจับคู่กับ “บอล บ้านบะขาม” ศิริศักดิ์ อนุลุน แม้มาเลเซียจะยังเริ่มต้นได้ดีกว่า ออกนำไปก่อนถึง 4-0 แต่ทีมไทยไม่ยอมแพ้ พยายามแก้เกมและอาศัยความนิ่ง จนไล่ตามตีเสมอได้ที่ 5-5 ก่อนจะพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายนำและปิดเซ็ตเอาชนะไปได้ 15-10 ทำให้สกอร์กลับมาเสมอกันที่ 1-1 เซ็ต สร้างความเงียบให้กับกองเชียร์เจ้าถิ่นไปชั่วขณะ

ในเซ็ตตัดสิน ทีมตะกร้อไทยเปิดฉากได้อย่างแข็งแกร่ง ออกนำไปก่อน 4-1 จากนั้นเกมเป็นไปอย่างสูสี มีการประท้วงจากผู้ฝึกสอนของไทยในบางจังหวะ แต่สุดท้าย ด้วยความมุ่งมั่นและความนิ่งกว่า คู่หนุ่มไทยก็สามารถปิดเกมเอาชนะไปได้ในที่สุดด้วยสกอร์ 15-12 ทำให้เอาชนะในนัดนี้ไป 2-1 เซ็ต (7-15, 15-10, 15-12) คว้าแชมป์ประเภทชายคู่ในศึกเซปักตะกร้อ แอสตาฟ เอเชียนคัพ 2025 มาครองได้สำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับวงการตะกร้อไทย

ขอบคุณภาพ : สนามตะกร้อ – Sanamtakraw