กกต. ออกหมายเรียก ‘สว. 55 คน’ ชุดแรก แจงปมได้ตำแหน่งมิชอบ พบหลักฐานเข้าข่าย ‘ฮั้ว-ผิด รธน.’
กกต. ออกหมายเรียก ‘สว. 55 คน’ ชุดแรก แจงปมได้ตำแหน่งมิชอบ พบหลักฐานเข้าข่าย ‘ฮั้ว-ผิด รธน.’
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีความเคลื่อนไหวสำคัญ โดยได้ออกหมายเรียกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชุดแรก จำนวน 55 คน ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งตำแหน่งโดยมิชอบ และอาจมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายกระทำผิดรัฐธรรมนูญ รวมถึงกลุ่มที่มีพฤติกรรมลักษณะ “ฮั้ว” กันด้วย
การออกหมายเรียกครั้งนี้ มอบหมายให้คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ซึ่งแต่งตั้งขึ้นมาใหม่ และมีพนักงานสอบสวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมด้วย เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการไต่สวนตามเหตุอันควรสงสัยและพยานหลักฐานที่ปรากฏ
โดย กกต. ได้นัดหมาย สว. ทั้ง 55 คน ให้เข้ารับทราบและชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาระหว่างวันที่ 19-21 พฤษภาคม 2568 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ อาคาร B กรุงเทพมหานคร
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นอกจาก สว. กลุ่มแรก 55 คนนี้แล้ว ยังจะมี สว. กลุ่มที่สอง ซึ่งมีจำนวนค่อนข้างมากตามมาอีกด้วย เนื่องจากคณะกรรมการไต่สวนได้รวบรวมหลักฐานและพยานที่บ่งชี้ว่ามี สว. อีกหลายคน ได้รับตำแหน่งมาโดยมิชอบและมีพฤติการณ์เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญเช่นกัน
สำหรับ สว. ทั้ง 55 คนที่ถูกเรียกมารับทราบและชี้แจงข้อกล่าวหาในครั้งนี้ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและบทบาทสำคัญในวุฒิสภาหลายท่าน ทั้งในระดับประธาน รองประธาน รวมถึงประธานและกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการสามัญต่างๆ โดยแบ่งการนัดหมายออกเป็น 3 กลุ่มตามวันที่ ดังนี้
กลุ่มที่ 1: นัดวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 จำนวน 22 คน
- เช่น นายมงคล สุระสัจจะ
- พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์
- นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี
- นายอลงกต วรกี
- และท่านอื่นๆ อีก 18 ท่าน
กลุ่มที่ 2: นัดวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 จำนวน 22 คน
- เช่น นายสืบศักดิ์ แววแก้ว
- พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพ็ชร์
- นายจิระศักดิ์ ชูความดี
- นายพิศูจน์ รัตนวงศ์
- นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร
- และท่านอื่นๆ อีก 17 ท่าน
กลุ่มที่ 3: นัดวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 จำนวน 11 คน
- เช่น นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์
- พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี
- นายขวัญชัย แสนหิรัณย์
- นางอจลา ณ ระนอง
- นายโชคชัย กิตติธเนศวร
- นายศุภชัย กิตติภูติกุล
- และท่านอื่นๆ อีก 5 ท่าน
ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ยืนยันว่า การดำเนินการออกหมายเรียก สว. ทั้ง 55 คนนี้ เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยพิจารณาจากพยานหลักฐานที่ชัดเจน และข้อสงสัยแวดล้อมต่างๆ ที่มีอยู่ ไม่ได้มีแรงกดดันจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทั้งสิ้น
ขณะเดียวกัน มีรายงานปฏิกิริยาจาก สว. บางส่วนที่ถูกหมายเรียก ซึ่งดูเหมือนจะคาดไม่ถึงกับเหตุการณ์นี้ บางส่วนอาจขอเลื่อนการเข้าชี้แจง บ้างก็ยืนยันว่าตนเองได้เข้ามาตามกระบวนการเลือกโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญแล้ว หรือบางคนก็ขอเวลาพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจ
สิ่งที่สำคัญที่ สว. ที่ถูกเรียกต้องตระหนักคือ การเข้ารับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจงต่อคณะกรรมการไต่สวน ถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่จะได้ใช้โอกาสในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง แสดงหลักฐาน และหักล้างข้อกล่าวหา แต่หากไม่มาตามนัด ก็จะถือว่า สว. ผู้นั้นสละสิทธิ์ในการชี้แจงแสดงหลักฐาน
สำหรับขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ คณะกรรมการไต่สวนจะทำการสรุปผลการไต่สวนและมีความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อพิจารณาว่าจะเห็นชอบว่ามีมูลตามข้อกล่าวหาหรือไม่ หาก กกต. มีมติเห็นชอบว่ามีมูล จะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อพิจารณาต่อไป และหากศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้อง ผู้ถูกร้องคือ สว. ที่เกี่ยวข้อง จะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีคำวินิจฉัยสุดท้าย ซึ่งจะส่งผลกระทบและอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในองค์ประกอบของวุฒิสภาอย่างแน่นอน