เทวกรรมโอสถ ชูแนวคิด ‘ทุกรอยปวดมีเรื่องราว…’ ดัน ‘มวย-นีโอบัน’ รุกตลาดโลก ตั้งเป้าแบรนด์ไทยมาตรฐานสากล
กรุงเทพฯ – บริษัท เทวกรรมโอสถ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์แบรนด์ดังอย่าง “มวย” และ “นีโอบัน” ประกาศเดินหน้ากลยุทธ์ครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดตัวแนวคิดใหม่ “DEVAKAMOSOTH LIFE CONVERGENCE – ทุกรอยปวดมีเรื่องราวให้ชีวิตไปต่อ” พร้อมตั้งเป้าผลักดันสองแบรนด์หลักสู่มาตรฐานระดับโลก และขยายตลาดต่างประเทศอย่างแข็งแกร่ง
นางสาวอธิชาภรณ์ จันทร์ประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทวกรรมโอสถ จำกัด เปิดเผยว่า แนวคิดใหม่นี้สะท้อนความเข้าใจของบริษัทต่อความเจ็บปวดในรูปแบบต่างๆ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงอุปสรรค แต่คือส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต ที่หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้ชีวิตก้าวต่อไปได้
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มผู้มีอาการปวดหลังส่วนล่างที่จะสูงถึง 843 ล้านรายทั่วโลกภายในปี ค.ศ. 2050 โดยปัญหานี้เป็นสาเหตุหลักของความพิการใน 160 ประเทศ ขณะที่ข้อมูลจากศูนย์บริการการแพทย์ไทยของรัฐฯ ในปี 2567 พบว่า ผู้เข้ารับการรักษาด้วยโรคออฟฟิศซินโดรมหรืออาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ และหลัง มีจำนวนสูงถึง 483,850 ราย ตัวเลขเหล่านี้ตอกย้ำถึงความต้องการผลิตภัณฑ์บรรเทาอาการปวดเมื่อยที่ยังมีอยู่อย่างมหาศาล
จากข้อมูลและแนวโน้มดังกล่าว เทวกรรมโอสถจึงมองเห็นโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยผลิตภัณฑ์น้ำมัน ครีม และสเปรย์ “มวย” รวมถึงแผ่นแปะแก้ปวด “นีโอบัน” โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายให้ได้มากกว่า 20% ภายใน 3 ปีข้างหน้า
สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น นางสาวอธิชาภรณ์ ยอมรับว่า แม้นักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเคยเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของผลิตภัณฑ์อย่างน้ำมันมวยและนีโอบันจะลดลง แต่ก็มีสัญญาณที่ดีจากกลุ่มนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางที่เริ่มหันมานิยมผลิตภัณฑ์ของบริษัทมากขึ้น โดยเฉพาะนีโอบัน ซึ่งช่วยชดเชยยอดขายในส่วนนี้ได้ดี ขณะที่การโปรโมทสินค้าเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยก็ให้ผลตอบรับที่ดีเช่นกัน ส่งผลให้ยอดขาย 4 เดือนแรกของปีนี้เติบโตเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และคาดว่ายอดขายทั้งปีจะยังคงเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักได้ตามเป้าหมาย จากยอดขายในปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 790 ล้านชิ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเสริมว่า บริษัทมีแผนขยายตลาดส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เพิ่มเติม จากปัจจุบันที่มีการจำหน่ายในราว 10 ประเทศ ทั้งในเอเชียและยุโรป โดยเน้นภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลางเป็นพิเศษ ซึ่งกำลังมองหาพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งเพื่อช่วยในการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย การดำเนินงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายหลักในการสร้างแบรนด์ไทยแท้ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยมีแบรนด์ มวย และนีโอบัน เป็นสินค้าเรือธงในการบุกตลาด
นางสาวสาธิตา เจียมสุชน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวเสริมว่า แบรนด์มวยและนีโอบันเป็นที่รู้จักในกลุ่มชาวต่างชาติที่เคยเดินทางมาประเทศไทยอยู่แล้ว ประกอบกับเทรนด์ด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Wellness) ที่กำลังมาแรงทั่วโลก ถือเป็นโอกาสที่ดีในการเติบโต
“ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 80 ปี ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญาไทยจากรุ่นสู่รุ่น ทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่ครองใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติทุกเพศทุกวัย เรามุ่งมั่นที่จะแข่งขันกับแบรนด์ต่างชาติในตลาดโลก และให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายไลน์สินค้าให้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค” นางสาวสาธิตา กล่าวทิ้งท้าย