กรุงเทพฯ – อุตสาหกรรมไอศกรีมของไทยกำลังสร้างชื่อเสียงระดับโลก หลังข้อมูลล่าสุดเปิดเผยว่า ประเทศไทยผงาดขึ้นเป็นผู้ส่งออกไอศกรีมอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชีย และรั้งอันดับ 4 ของโลก รองจากสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของสินค้าไทยในตลาดสากล

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ไอศกรีมไทยเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางจากผู้บริโภคทั่วโลก และมีอัตราการส่งออกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญกับความท้าทายในกระแสการค้าโลก

ข้อมูลการส่งออกในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2563-2567) ชี้ให้เห็นแนวโน้มเชิงบวกอย่างชัดเจน โดยไทยส่งออกไอศกรีมเฉลี่ยปีละ 106 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 3.7 พันล้านบาทต่อปี มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 11% ต่อปี และในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2568 (มกราคม-กุมภาพันธ์) ไทยสามารถส่งออกไอศกรีมได้แล้วมูลค่า 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของการส่งออกไอศกรีมไทยคือ ความได้เปรียบจากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยมีกับประเทศคู่ค้าต่างๆ โดยปัจจุบันไทยมี FTA รวม 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ซึ่งความตกลงเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการลดหรือยกเลิกกำแพงภาษีนำเข้า ทำให้สินค้าไอศกรีมและน้ำแข็งอื่น ๆ ที่บริโภคได้ของไทย ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าจากประเทศคู่ FTA ถึง 17 ประเทศ เหลือเพียงประเทศญี่ปุ่นที่ยังคงมีการเก็บภาษีนำเข้าในอัตราร้อยละ 21-29.8

ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกไอศกรีมไปยังประเทศคู่ FTA มีสัดส่วนสูงถึง 87% ของมูลค่าการส่งออกไอศกรีมทั้งหมด และยังคงมีการเติบโตที่ดีในเกือบทุกตลาด โดยเฉพาะตลาดสำคัญในภูมิภาค เช่น อาเซียน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย มีการเติบโตโดยรวม 9% โดยเฉพาะใน มาเลเซีย (เพิ่มขึ้น 9%), ฟิลิปปินส์ (เพิ่มขึ้น 70%) และเวียดนาม (เพิ่มขึ้น 41%) นอกจากนี้ ตลาดอื่น ๆ ที่แสดงการเติบโตโดดเด่น ได้แก่ เกาหลีใต้ (เพิ่มขึ้น 9%), ออสเตรเลีย (เพิ่มขึ้น 32%), ฮ่องกง (เพิ่มขึ้น 116%) และที่น่าจับตาคือ ญี่ปุ่น ซึ่งมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 827%

ในระยะยาว คาดว่าอุตสาหกรรมไอศกรีมของไทยจะยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยศักยภาพในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มาตรฐานสากล ข้อได้เปรียบด้านภาษีภายใต้กรอบ FTA และความอุดมสมบูรณ์ของวัตถุดิบในประเทศที่หลากหลาย ทำให้ไทยมีความพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกไอศกรีมที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย

ปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิตไอศกรีมรายใหญ่ระดับโลกหลายแห่งได้เข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางในการผลิตและส่งออกไอศกรีมไปยังตลาดต่างๆ ในภูมิภาค ขณะเดียวกัน ภาครัฐบาลก็พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย ในการพัฒนาสินค้า คิดค้นรสชาติใหม่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการใช้วัตถุดิบและสมุนไพรไทยที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อสร้างความแตกต่างและจุดขายใหม่ๆ เจาะกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมกับการใช้ประโยชน์จาก FTA ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการขยายช่องทางการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างยั่งยืน