รายงานข่าวความคืบหน้ากรณีหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์ข้อความสาธารณะผ่านเฟซบุ๊กประกาศขอยุติบทบาทการเป็นลูกสาวกับผู้เป็นมารดา โดยระบุเหตุผลว่า แม่ได้นำรูปถ่ายของเธอและลูกๆ ไปแอบอ้างหลอกลวงเงินจากผู้อื่นบนโลกออนไลน์ จนมีผู้เสียหายพยายามติดต่อทวงถามเงินจากตัวเธอเอง ซึ่งเธอไม่เคยรับรู้เรื่องนี้มาก่อน และกำลังอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด การโพสต์ครั้งนี้เพื่อชี้แจง ปกป้องสิทธิ์ และความปลอดภัยของตนเองและบุตร รวมถึงรักษาความน่าเชื่อถือในการทำงานบนช่องทางออนไลน์

ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นางสุ อายุ 60 ปี ผู้เป็นแม่ในเหตุการณ์นี้ ที่อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยทราบว่าผู้โพสต์ข้อความเป็นลูกสาวของนางสุ ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ที่จังหวัดชลบุรี

นางสุ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่ขอชี้แจงรายละเอียดมากนัก เพราะได้รับผิดไปแล้ว และคู่กรณีก็ได้มีการพูดคุยตกลงเรื่องการใช้หนี้สินกันแล้ว ซึ่งตนยอมรับว่าทำผิดจริงตามที่ลูกสาวกล่าวหา แต่หากลูกสาวมองว่าการตัดขาดหรือการกระทำใดๆ ที่ทำให้ลูกสบายใจ ก็ให้ทำไปได้เลย ตนไม่โกรธลูกอย่างแน่นอน เพราะความเป็นแม่ยังไงก็รักลูกอยู่เสมอ

เมื่อถูกถามถึงเรื่องการดำเนินคดี นางสุ กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าลูกสาวอาจจะเอาหมายฟ้องมา ซึ่งตนไม่มีเงินเดินทางไปศาล หากเป็นเช่นนั้นก็ให้เอาหมายจับมาเลย เพราะตนไม่คิดจะหนี จะรออยู่ที่นี่

เกี่ยวกับประเด็นการนำรูปหลานไปแอบอ้าง นางสุ ยอมรับว่าตนผิดจริงที่นำรูปไปใช้ แต่ยืนยันว่าเป็นการนำรูปไปใช้เป็นโปรไฟล์เล่นเกมออนไลน์เท่านั้น ไม่ได้นำชื่อหรือรูปไปหลอกเอาเงินโดยตรงจากคนอื่นในออนไลน์ตามที่ลูกสาวเข้าใจ และเรื่องที่เกิดขึ้นก็มีการเล่นกันในเกมเท่านั้น แต่หากลูกสาวไม่ยอมจบและทำแล้วสบายใจ ตนก็พร้อมยอมรับ

ท้ายที่สุด นางสุ กล่าวย้ำความรู้สึกที่มีต่อลูกสาวว่า ยังรักลูกเหมือนเดิมเสมอ ไม่ว่าลูกจะทำอย่างไร ซึ่งหากลูกสาวต้องการให้ตนไปกราบเท้าเพื่อขอโทษ ตนก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อลูก และลูกสาวก็ไม่จำเป็นต้องมาขอโทษตนเลย