ผบ.ตร.สั่งเร่งล่าแก๊งรุมทำร้าย ตร.เจ็บคาหน่วยเลือกตั้งสงขลา ย้ำไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายร่างกายขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ณ หน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตักเตือนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งซึ่งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) รายหนึ่ง พร้อมผู้ติดตาม ที่พยายามถ่ายรูปภายในหน่วยเลือกตั้ง อันเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง

เหตุการณ์อุกอาจนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ตำบลพะวง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ในระหว่างการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีตำบลพะวง โดย ดาบตำรวจ นิสาธิต คงเทพ สังกัดกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยประจำหน่วยเลือกตั้ง ได้เข้าห้ามปรามกลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ให้ถ่ายรูปภายในบริเวณหน่วยเลือกตั้งตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ซึ่งการห้ามปรามนี้เองที่นำไปสู่ความไม่พอใจและเป็นชนวนเหตุของการทำร้ายร่างกาย

ภายหลังจากที่ ด.ต.นิสาธิต ได้ให้คำตักเตือน ปรากฏว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนประมาณ 5-7 คน ได้เข้ามารุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เคราะห์ร้ายได้รับบาดเจ็บบริเวณดวงตาและข้อมือ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลา ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปทันทีหลังก่อเหตุ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจและยอมรับไม่ได้โดยสิ้นเชิง ได้สั่งการไปยังผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ให้เร่งดำเนินการในหลายด้านอย่างเร่งด่วน โดยสิ่งแรกคือการให้ผู้บังคับบัญชาเดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจ ด.ต.นิสาธิต ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกำชับให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาลงไปควบคุมดูแลการปฏิบัติงานสอบสวนในคดีนี้ด้วยตนเอง

นอกจากนี้ ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดการรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมให้เร็วที่สุด พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษออกติดตามและกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่มักทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย โดยยืนยันว่าจะต้องจับกุมผู้กระทำผิดในคดีนี้มาดำเนินคดีให้ได้ทั้งหมดทุกราย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม พร้อมให้สอบสวนขยายผลว่ากลุ่มผู้กระทำผิดมีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในลักษณะอื่นอีกหรือไม่ และหากพบการกระทำผิดใดๆ อีก จะต้องดำเนินคดีอย่างเข้มข้นและเด็ดขาดในทุกข้อหา

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้กล่าวประณามการกระทำที่ถือว่าเป็นการท้าทายอำนาจรัฐและกฎหมายเช่นนี้ โดยย้ำชัดเจนว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่ละเลย และไม่สนว่าผู้กระทำผิดจะมีตำแหน่งหน้าที่หรือเป็นใครมาจากไหน ทุกคนจะต้องเคารพและอยู่ภายใต้กฎ กติกา และกฎหมายของบ้านเมือง หากมีการกระทำผิดเกิดขึ้น จะต้องถูกลงโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้โดยไม่มีข้อยกเว้น