นครปฐม – นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประกาศยุติบทบาททางการเมืองทั้งหมด หลังผู้สมัครที่พรรคประชาชนสนับสนุนพ่ายแพ้การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครปฐม โดยเธอแสดงความผิดหวังอย่างยิ่งต่อจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

ผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครปฐมอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 ปรากฏว่า นายสมโชค พงษ์ขวัญ จากกลุ่มสันติธรรม ได้รับคะแนน 14,570 คะแนน เฉือนชนะ นายชัชวาล นันทะสาร ผู้สมัครจากพรรคประชาชน ซึ่งได้ 13,472 คะแนน ด้วยส่วนต่าง 1,098 คะแนน

ล่าสุด นางอมรัตน์ ได้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านแพลตฟอร์ม X (ทวิตเตอร์) แสดงความเห็นต่อผลการเลือกตั้ง โดยระบุว่า พรรคประชาชนตั้งความหวังว่าจะสามารถคว้าชัยชนะได้ แต่ผลคะแนนหลังนับไปกว่า 95% แสดงให้เห็นว่าคะแนนตามหลังอยู่ประมาณ 900 คะแนน เธอกล่าวยอมรับผลการเลือกตั้ง ไม่โทษปัจจัยใดๆ

ประเด็นที่สร้างความผิดหวังให้กับนางอมรัตน์อย่างมากคือ อัตราการมาใช้สิทธิเลือกตั้งที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2564 มีผู้มาใช้สิทธิ 61% แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ลดเหลือเพียง 51% หรือลดลงถึง 10% แม้จะมีการรณรงค์อย่างเต็มที่ในทุกช่องทาง เธอกล่าวว่าไม่สามารถกระตุ้นให้ประชาชนหันมาสนใจการเลือกตั้งท้องถิ่นได้ และฝากเรื่องนี้ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้พิจารณา

พร้อมกันนี้ นางอมรัตน์ ได้ประกาศยืนยันเจตนารมณ์ที่จะวางมือจากการเมืองทั้งหมดตามที่เคยกล่าวไว้ แต่จะยังคงบทบาทในฐานะพลเมืองที่เข้มแข็ง และยังคงพบปะผู้คนได้ผ่านช่องทางออนไลน์ เธอกล่าวว่าไม่ได้เสียใจกับผลการเลือกตั้ง เพียงแต่ผิดหวังกับจำนวนผู้มาใช้สิทธิเท่านั้น

ด้านนายชัชวาล นันทะสาร ผู้สมัครที่พ่ายแพ้ ได้กล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบความไว้วางใจ โดยยอมรับว่าอาจยังสื่อสารและรณรงค์ให้เห็นคุณค่าความสำคัญของการเมืองท้องถิ่นซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวได้ไม่มากพอ ทำให้ผู้คนออกมาใช้สิทธิไม่มากตามที่คาดหวัง ส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงในนครปฐมต้องถูกดึงเวลาออกไปอีก ทำให้ประชาชนยังคงต้องเผชิญกับปัญหาเดิมๆ ที่มีมานาน

นายชัชวาล ยังคงแสดงความหวังว่า ในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งต่อไป ประชาชนจะเห็นความสำคัญของคุณภาพชีวิตที่จะเปลี่ยนแปลงได้ในระดับเทศบาล ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวอย่างแท้จริง เขายอมรับว่าช่วงวันหยุดยาว 3 วันที่ผ่านมาอาจมีผลต่อจำนวนผู้มาใช้สิทธิ ทำให้ลดลงจากครั้งก่อนถึง 10% อย่างไรก็ตาม ทีมงานจะทำงานให้หนักขึ้น เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงคือนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นางอมรัตน์ กล่าวเสริมว่า การที่พรรคประชาชนลงสนามเลือกตั้งเทศบาลนครนครปฐมเป็นครั้งแรก และสามารถทำคะแนนได้สูสีกับคู่แข่งซึ่งเป็นเจ้าถิ่นเดิม ถือเป็นสิ่งที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แม้คะแนนของเจ้าถิ่นเดิมจะลดลงก็ตาม

ในตอนท้าย เธอยังฝากข้อคิดว่า อย่าเพิ่งหมดหวังกับการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่อื่นๆ เพราะยังมีความหวังอยู่เต็มเปี่ยม แม้การเปลี่ยนแปลงอาจใช้เวลา แต่ในการเมืองระดับชาติยังคงน่าติดตาม และคาดหวังว่าในการเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไป พรรคประชาชนจะสามารถคว้าชัยชนะและจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ