นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้หารือร่วมกับ นางสาวแอนเจลา แม็กดอนัลด์ เอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตออสเตรเลียฯ เพื่อมุ่งเน้นเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยการจับมือกันในทุกมิติของความร่วมมือ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการลงทุน พร้อมเดินหน้าเสริมสร้างความเข้มแข็งของการค้าในภูมิภาคอย่างยั่งยืน

ประเด็นสำคัญในการหารือครั้งนี้ คือ การเพิ่มมูลค่าการส่งออกยานยนต์ และรักษาตลาดการส่งออกรถกระบะไทยให้เป็นอันดับหนึ่งในออสเตรเลีย ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจทั้งสองประเทศ โดยไทยเป็นแหล่งนำเข้ารถกระบะอันดับหนึ่งของออสเตรเลียและมีมูลค่าการนำเข้าสูงถึงประมาณ 4.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2567

นายพิชัย กล่าวว่า ตนได้หยิบยกประเด็นเกี่ยวกับกฎหมายมาตรฐานประสิทธิภาพการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากรถยนต์ หรือ New Vehicle Efficiency Standard (NVES) ของออสเตรเลีย โดยได้ขอให้ทางออสเตรเลียพิจารณาการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างทั้งสองประเทศมากนัก พร้อมขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของออสเตรเลียเข้ามาเตรียมความพร้อมให้แก่ภาครัฐและภาคเอกชนไทย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังได้เน้นย้ำถึงความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้นและยั่งยืน โดยไทยและออสเตรเลียเป็นภาคีร่วมกันในความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่สำคัญถึง 3 ฉบับ ได้แก่ ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZFTA) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)

นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและออสเตรเลีย หรือ เซก้า (CEGA) ที่มุ่งส่งเสริมความร่วมมือที่ตอบสนองต่อบริบทการค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ไทยมีความมุ่งมั่นในการดำเนินกระบวนการภายในเพื่อให้ความตกลง AANZFTA Upgrade มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ซึ่งท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ทั้งสองฝ่ายควรใช้ประโยชน์จากความตกลงฯ ดังกล่าวเพื่อพัฒนามูลค่าการค้าและการลงทุน

นายพิชัย ชี้ว่า หนึ่งในโอกาสการลงทุนที่น่าจับตาคือด้าน Data Center เนื่องจากไทยมีความมั่นคงด้านพลังงาน จึงเป็นแหล่งลงทุนที่ดีให้กับนักลงทุนต่างชาติ

สำหรับภาพรวมการค้าระหว่างไทยและออสเตรเลียในปี 2567 มีมูลค่ารวม 17,842.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ 6.36 โดยไทยได้ดุลการค้าคิดเป็นมูลค่า 6,816.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปออสเตรเลีย อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญจากออสเตรเลีย อาทิ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ และเครื่องเพชรพลอย อัญมณี เป็นต้น