วิสุทธิ์ วิปรัฐบาล ชี้ กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ต้องทำประชามติ ยัน สส.คือตัวแทนประชาชนแล้ว
กรุงเทพฯ – 10 พฤษภาคม 2568 – นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะประธาน สส. พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงความคืบหน้าและประเด็นที่เกี่ยวข้องกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
ประธานวิปรัฐบาลกล่าวถึงกรณีที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้มอบหมายให้ สส. ลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนในช่วงที่ปิดสมัยประชุมสภาเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว โดยระบุว่า การประชุม สส. พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 13 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ อาจจะยังไม่ได้นำเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ขึ้นมาหารือเป็นการเฉพาะ เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องที่มีเวลาอีกประมาณ 2 เดือนกว่าจะเข้าสู่การพิจารณาในรายละเอียด
นายวิสุทธิ์ระบุว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องชี้แจงและทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้เห็นว่ามีรัฐมนตรีหลายท่านได้เริ่มให้ข้อมูลและชี้แจงบ้างแล้ว และเชื่อว่ายังมีเวลาเพียงพอให้ประชาชนได้ศึกษาและทำความเข้าใจก่อนที่จะมีการพิจารณาในขั้นตอนต่อไป
เมื่อถูกถามถึงกระแสเรียกร้องและข้อเสนอแนะที่ระบุว่าควรจะมีการทำประชามติเพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ประธานวิปรัฐบาลยืนยันว่า ยังไม่เคยเห็นรัฐมนตรีท่านใดพูดถึงเรื่องการทำประชามติสำหรับกฎหมายฉบับนี้ และตั้งข้อสังเกตว่า หากกฎหมายทุกฉบับที่มีความเห็นต่างจะต้องนำไปทำประชามติ อาจเป็นอุปสรรคต่อการออกกฎหมายและการบริหารราชการแผ่นดิน
“เวลากฎหมายประชามติจะเข้าไปก็อยู่อีกหลายเดือน กฎหมายประชามติยังไม่ผ่าน ฉะนั้น หากออกกฎหมายฉบับนี้ต่อไป ถ้ามีคนเรียกร้องว่าต้องทำประชามติทุกครั้ง แล้วเราจะออกกฎหมายได้หรือไม่ สส. คือตัวแทนประชามติแล้ว เพราะมาจากประชาชน” นายวิสุทธิ์กล่าวเน้นย้ำถึงบทบาทของ สส. ในฐานะผู้แทนของปวงชนชาวไทย
นายวิสุทธิ์ยังได้กล่าวถึงภาระด้านงบประมาณหากจะต้องมีการทำประชามติสำหรับกฎหมายทุกฉบับว่า การทำประชามติแต่ละครั้งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งอาจสูงถึงประมาณ 3,000 ล้านบาท และตั้งคำถามว่า หากในเดือนหนึ่งต้องออกกฎหมายหลายฉบับและต้องทำประชามติทั้งหมด จะไหวหรือไม่
“ฉะนั้น ต่อไปหากใครเสนอกฎหมายอะไร แล้วมีการเรียกร้องให้ทำประชามติ รอบละ 3,000 ล้านบาท ไหวหรือไม่ เดือนหนึ่งถ้าออกกฎหมาย 3 ฉบับ และทำประชามติทั้ง 3 ฉบับ มันก็ไปไกลแล้ว ฉะนั้น สส. คือตัวแทน ถ้ารัฐธรรมนูญทำประชามติอันนั้นเห็นด้วย แต่เรื่องอื่นให้อธิบายความกันก่อน เป็นหน้าที่ของรัฐบาลชี้แจงกับประชาชนให้เข้าใจเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และเมื่อเข้าใจแล้ว เราค่อยมาว่ากัน ซึ่งมีเวลาอีกตั้ง 60 วัน ก็ไม่เร่งด่วนอะไร” ประธานวิปรัฐบาลกล่าวเสริม
นายวิสุทธิ์กล่าวต่อไปว่า ปัจจุบัน สส. พรรคเพื่อไทย ได้เริ่มลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนในประเด็นต่างๆ รวมถึงเรื่องนี้ ซึ่งทุกคนต้องช่วยกันสื่อสารข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ไม่ใช่เพียงแต่วิ่งตามกระแส โดยย้ำว่าต้องพูดในข้อเท็จจริงก่อน ส่วนผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไรค่อยมาพิจารณากันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นายวิสุทธิ์เน้นย้ำว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดและต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกในขณะนี้ คือการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนประเทศ