ประธาน กกต. ยัน ดีเอสไอร่วมสอบคดีฮั้ว สว. รุดหน้า ชี้ ศาลรับคำร้อง สว. ต้องยุติปฏิบัติหน้าที่

กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนร่วมระหว่าง กกต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกหมายเรียกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่มแรกจำนวน 54 ราย ให้เข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาในคดีที่เกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือก สว. ยืนยันการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ

นายอิทธิพร กล่าวว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดนี้เป็นคณะพิเศษที่ตั้งขึ้นเพิ่มเติมจากคณะปกติ ซึ่งมีจำนวน 25 คณะสำหรับการเลือก สว. ครั้งนี้ โดยคณะกรรมการชุดที่ 26 นี้ ได้รับความร่วมมือจากดีเอสไอ ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย คณะกรรมการฯ มีอำนาจหน้าที่ตามระเบียบการสืบสวนไต่สวน เมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเบื้องต้นแล้วเห็นว่ามีพฤติการณ์ที่อาจเข้าข่ายจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและออกหนังสือนัดหมายให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 54 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมเปิดโอกาสให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาและนำพยานหลักฐานมาแสดง ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกรอบอำนาจและกระบวนการ

ประธาน กกต. กล่าวถึงกรอบระยะเวลาการพิจารณาว่า คณะกรรมการฯ มีเวลาพิจารณา 90 วัน ซึ่งสามารถขยายได้หากเกี่ยวข้องกับบุคคลจำนวนมาก หลังจากผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแล้ว คณะกรรมการฯ จะประมวลผลและวินิจฉัยเพื่อเสนอความเห็นตามขั้นตอนต่อไป จากนั้นจะเป็นกระบวนการของเลขาธิการ กกต. ซึ่งมีเวลาพิจารณาอีก 60 วัน ก่อนจะเข้าสู่ที่ประชุม กกต. โดยผ่านการพิจารณากลั่นกรองจากอนุกรรมการวินิจฉัย

“หากที่ประชุม กกต. พิจารณาแล้วเห็นว่าหลักฐานไม่เพียงพอก็จะยุติเรื่อง แต่หากพบว่ามีพฤติการณ์ที่เข้าข่ายความผิดจริงก็จะส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ซึ่งหากศาลพิจารณารับคำร้องไว้พิจารณา จะส่งผลให้สมาชิกวุฒิสภาที่ถูกกล่าวหาจะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที” นายอิทธิพร กล่าวย้ำถึงผลทางกฎหมาย

ส่วนกรอบเวลา 1 ปีในการพิจารณาคำร้องทั้งหมดนั้น นายอิทธิพร ชี้แจงว่าเป็นกรอบที่กำหนดไว้เพื่ออำนวยความยุติธรรม แต่ไม่กระทบต่อกระบวนการสืบสวนไต่สวน สามารถยืดหยุ่นและขยายเวลาได้ แม้ กกต. จะไม่ต้องการให้เกิดความล่าช้า แต่หากจำเป็นต้องใช้เวลาเพิ่มก็ต้องมีเหตุผลรองรับ

เมื่อถามถึงกรณีที่อาจมี สว. ถูกตัดสิทธิ์และต้องมีการเลื่อนลำดับ สว. สำรอง หรือเลือกใหม่หรือไม่ นายอิทธิพร ระบุว่าขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ที่เข้าข่ายความผิดจริง ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนในภายหลัง สำหรับคำถามว่าจะมีการเรียก สว. เพิ่มเติมอีกหรือไม่ นอกเหนือจาก 54 คนแรก ประธาน กกต. กล่าวว่าต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานที่คณะกรรมการฯ พิจารณา การให้ข้อมูลตอนนี้ยังไม่เหมาะสม

ประธาน กกต. ยังได้ชี้แจงข้อสงสัยที่ว่าหนังสือหมายเรียกได้ระบุว่า สว. มีความผิดชัดเจนแล้วหรือไม่ โดยยืนยันว่าหนังสือดังกล่าวระบุเพียงว่ามี “พฤติการณ์ที่อาจจะเป็นการฝ่าฝืน” ยังไม่ได้เป็นการวินิจฉัยว่ามีความผิด เพราะการตัดสินว่าใครผิดหรือไม่ผิดเป็นอำนาจหน้าที่ของศาลแต่เพียงผู้เดียว ส่วนพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และพยานบุคคลที่มีอยู่ทำให้เชื่อว่ามีพฤติการณ์ดังกล่าว

นายอิทธิพร อธิบายเพิ่มเติมว่า การที่อนุกรรมการวินิจฉัยพิจารณาก่อนเสนอ กกต. ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงผล แต่เป็นการเสนอความเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย หรือมีจุดใดที่ควรสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความชัดเจนและความเป็นธรรมในการใช้ดุลพินิจ

สำหรับเหตุผลที่ทำให้คดีนี้มีความคืบหน้ารวดเร็วกว่าคดีอื่นๆ ที่ กกต. ดำเนินการเองนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า มาจากการที่ กกต. ต้องการให้ดีเอสไอเข้ามาช่วยดูในบางเรื่องที่พยานหลักฐานอาจไม่มากนัก ซึ่งเมื่อดีเอสไอเข้ามาและนำพยานหลักฐานที่เขามีอยู่มารวมด้วย ก็ทำให้กระบวนการโดยรวมไม่ช้า โดยขณะนี้มีคำร้องเกี่ยวกับ สว. ทั้งหมดประมาณ 577 คำร้อง ทำเสร็จไปแล้วกว่า 300 เรื่อง ส่วนเรื่องฮั้วที่อยู่ในคณะกรรมการฯ คณะอื่นๆ ก็ยังดำเนินการอยู่ แต่การสืบสวนของคณะกรรมการฯ ชุดที่ 26 นี้ จะช่วยเร่งกระบวนการสืบสวนไต่สวนสำนวนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้เร็วขึ้นได้

ทั้งนี้ รายชื่อ สว. ที่ถูกออกหมายเรียกให้เข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 มีทั้งหมด 54 คน ดังนี้

1.พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ 2.พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา 3.นายเศก จุลเกษร 4.นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี 5.นายมงคล สุระสัจจะ 6.พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย 7.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร 8.นายสืบศักดิ์ แววแก้ว 9.นายสุเทพ สังข์วิเศษ 10.นายสมทบ ถีระพันธ์
11.นางนงลักษณ์ ก้านเขียว 12.นายฤชุ แก้วลาย 13.นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล 14.นางปวีณา สาระรัมย์ 15.นายสมชาย นุ่มพูล 16.นายยะโก๊ป หีมละ 17.นายนิสิทธิ์ ปนกลิ่น 18.น.ส.เข็มรัตน์ สุรเมธีมาณพ 19.นายจตุพร เรียงเงิน 20.นางสมพร วรรณชาติ
21.นายจิระศักดิ์ ชูความดี 22.นายอภิชา เศรษฐวราธร 23.นายชีวะภาพ ชีวะธรรม 24.นายนิพนธ์ เอกวานิช 25.นางสุมิตรา จารุกำเนิดกนก 26.นายรุจิภาส มีกุศล 27.พ.ต.ท.สง่า ส่งมหาชัย 28.นายสมพาน พละศักดิ์ 29.นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร 30.นายพิศูจน์ รัตนวงศ์
31.นายขวัญชัย แสนหิรัณย์ 32.นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม 33.นางอจลา ณ ระนอง 34.อัจฉรพรรณ หอมรส 35.นายสมหมาย ศรีจันทร์ 36.นายกฤษณุ เหลืองพิบูลกิจ 37.นายสมดุล บุญไชย 38.นายสุวิช จำปานนท์ 39.นายประณีต เกรัมย์ 40.นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล
41.นายพิบูลย์อัฑฒ์ หฤหรรษ์ประการ 42.นายวิเขียร ชัยสถาพร 43.นายสากล ภูลศิริกุล 44.นายภาณุพงษ์ เต็งวงษ์วัฒนะ 45.นายสุทนต์ กล้าการขาย 46.นายศุภชัย กิตติภูติภูติกุล 47.นายโชคชัย กิตติธเนศวร 48.นายสิทธิกร ธงยศ 49.นายอลงกต วรกี 50.พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี  51.นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ 52.นายวิรัตน์ ธรรมบำรุง53.นายประไม หอมเที่ยง 54.น.ส.คอดียะฮ์ ทรงงาม