สว. สรชาติ ยันไม่ได้ฮั้วเลือก สว. ซัด ดีเอสไอ-กกต. สุ่มเรียกตัว ทั้งที่เคยชี้แจงแล้ว
นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ออกมาเปิดเผยถึงกรณีที่ได้รับหมายเรียกจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้วเลือก สว. โดยยืนยันหนักแน่นว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฮั้วหรือการจัดตั้งคะแนนใดๆ พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงกระบวนการออกหมายเรียกที่ใช้ข้อมูลจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งใช้วิธีสุ่มเลือกโดยไม่ได้อิงจากพฤติกรรมน่าสงสัยจริง ทำให้ กกต. ถูกกดดันให้ต้องเรียกสอบ ทั้งที่ตนเคยชี้แจงข้อเท็จจริงไปแล้ว
นายสรชาติ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งเรื่องหมายเรียกจาก กกต. จังหวัดทางโทรศัพท์ ซึ่งแจ้งให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ แต่เนื่องจากติดภารกิจ จึงจะขอเลื่อนการเข้าชี้แจงออกไปประมาณ 1-2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าพร้อมที่จะไปรับทราบและชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาทั้งหมดด้วยความมั่นใจ ไม่กังวลและไม่หนักใจในเรื่องนี้
“ผมยืนยันว่าไม่ได้มีการฮั้ว ไม่มีการจัดตั้งคะแนน หรือมีเส้นทางการเงินใดๆ ที่ผิดปกติ การถูกหมายเรียกครั้งนี้ เท่าที่ผมดู ไม่ได้มาจากการกระทำหรือพฤติกรรมที่น่าสงสัย แต่เหมือนเป็นการใช้วิธีสุ่มเรียกตัวแทนจาก 20 กลุ่มอาชีพ มากลุ่มละ 1-3 คน โดยสุ่มจากผู้ที่ได้คะแนนในลำดับต้นๆ ในแต่ละกลุ่ม และจากจังหวัดที่มี สว. ได้รับเลือกเป็นจำนวนมาก โดยไม่ได้พิจารณาจากพฤติกรรมที่น่าสงสัยจริงๆ” นายสรชาติ กล่าว
นายสรชาติ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในกลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกลุ่มของตน มีผู้ถูกหมายเรียก 2 คน ทั้งที่ในการเลือกระดับอำเภอและระดับจังหวัด ตัวเองได้รับเลือกในลำดับสุดท้ายทั้งสองระดับ โดยได้ 2 คะแนนในระดับอำเภอ (ลำดับ 1 ได้ 6 คะแนน) และได้ 4 คะแนนในระดับจังหวัด (ลำดับ 1 ได้ 16 คะแนน) แต่กลับมาได้คะแนนสูงถึง 66 คะแนนในระดับประเทศ จนได้ลำดับที่ 1 ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนของ กกต. กลับใช้วิธีสุ่มเรียกตนซึ่งเป็นลำดับ 1 ในระดับประเทศ ทั้งที่ในระดับอำเภอและจังหวัดได้คะแนนน้อย
นายสรชาติ กล่าวต่อไปว่า กกต. เคยเรียกตนไปชี้แจงประเด็นเรื่องคะแนนที่สูงขึ้นในระดับประเทศแล้ว โดยตนได้อธิบายไปว่าไม่สามารถนำคะแนนระดับอำเภอและจังหวัดมาเทียบกับระดับประเทศได้ เพราะมีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ชื่อเสียงและการเป็นที่รู้จัก ตนเป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของจังหวัดหนองบัวลำภู และมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก จึงทำให้ได้รับคะแนนสนับสนุนมากในระดับประเทศ ซึ่งในครั้งนั้น กกต. ก็ไม่ได้ติดใจในคำชี้แจงดังกล่าว และมีข้อมูลเหล่านี้บันทึกไว้ทั้งหมดแล้ว
“รายละเอียดพวกนี้ กกต. ทราบดี และมีข้อมูลเก็บไว้หมดแล้ว แต่การทำงานของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน กลับนำข้อมูลส่วนใหญ่มาจาก ดีเอสไอ ซึ่งเป็นข้อมูลแบบสุ่ม ไม่รู้ว่า ดีเอสไอ ทราบหรือไม่ว่า กกต. มีข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว เมื่อ ดีเอสไอ มีการส่งข้อมูลและอาจมีการกดดันมา กกต. ก็จำเป็นต้องรับเรื่องและเรียกสอบไว้ก่อน แต่ผมยืนยันว่ามั่นใจที่จะชี้แจงและแก้ข้อกล่าวหาได้ทุกประเด็น” นายสรชาติ กล่าว
ส่วนประเด็นที่มองว่าการออกหมายเรียก สว. ในช่วงเวลานี้ เป็นเกมการต่อรองระหว่างขั้วอำนาจทางการเมืองหรือไม่นั้น นายสรชาติ กล่าวว่าตนไม่แน่ใจ แต่เห็นว่าการออกหมายเรียกไม่ควรใช้วิธีสุ่มที่ไม่มีเหตุผล โดยไม่คำนึงถึงพื้นฐานข้อเท็จจริงที่ กกต. ได้สอบสวนและมีข้อมูลอยู่แล้ว
สำหรับท่าทีของกลุ่ม สว. ในกรณีที่ถูกหมายเรียกพร้อมๆ กันนี้ นายสรชาติ กล่าวว่ายังไม่ได้มีการหารืออย่างเป็นทางการในวงกว้าง เนื่องจากแต่ละคนเพิ่งได้รับหมายเรียกและยังคงเดินทางอยู่ในต่างจังหวัด จึงยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยหรือหารือถึงแนวทางการดำเนินการร่วมกันในขณะนี้