“แก๊ป ธนเวทย์” ทุ่มสุดตัวสวมบท “ขุนบางกลางหาว” ใน “พระร่วง มหาศึกสุโขทัย” เผยชีวิต 3 พาร์ท ทั้งงานแสดง ยูทูบ และบทบาทคุณพ่อ 7 ขวบ

เห็นเงียบๆ แต่งานเยอะใช่เล่น สำหรับนักแสดงหนุ่มมากฝีมือ ‘แก๊ป’ ธนเวทย์ สิริวัฒน์ธนกุล ที่ล่าสุดเตรียมมีผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ “พระร่วง มหาศึกสุโขทัย” ที่รับบทเป็น ‘ขุนบางกลางหาว’ หรือ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ปฐมบทแห่งกษัตริย์สุโขทัย ซึ่งเจ้าตัวได้ออกมาเผยถึงความท้าทายของบทบาทนี้ รวมถึงอัพเดตชีวิตในพาร์ตอื่นๆ ทั้งงานยูทูบ และบทบาทการเป็นคุณพ่อ.

แก๊ป ธนเวทย์ เผยว่า ในช่วงนี้มี 3 พาร์ตหลักๆ คือ พาร์ตการแสดงกับภาพยนตร์ “พระร่วง มหาศึกสุโขทัย” พาร์ตยูทูบในช่อง Gapthanavate ซึ่งทำคอนเทนต์เกี่ยวกับบ้าน สถาปัตยกรรม และดีไซน์ และพาร์ตธุรกิจทำสมุดโน้ตแบรนด์ a piece(s) of paper.

สำหรับภาพยนตร์ “พระร่วง มหาศึกสุโขทัย” ถือเป็นงานที่ท้าทายอย่างมาก เพราะเป็นภาพยนตร์พีเรียดเต็มเรื่องผสมดราม่าแอ๊กชั่น ซึ่งยากในการต้องบู๊ในวัยนี้ ต้องฝึกหลายอย่างในระยะเวลาอันสั้น ทั้งขี่ม้า ฟันดาบ เรียนภาษาสุโขทัย โดยเฉพาะคิวบู๊ที่ต้องเป๊ะและจำลองเทก รวมถึงการต้องฟิตหุ่นให้เข้ากับบทบาท.

ในการรับบท ขุนบางกลางหาว แก๊ปเลือกทำการบ้านจากเนื้อบทและความสัมพันธ์กับตัวละครใกล้ตัว เช่น พ่อ พี่ชาย (รับบทโดย เต้ย พงศกร) อา (เปรียบเสมือนคนสนิทของคุณพ่อ รับบทโดย พี่ตั๊ก นภัสรัญชน์) และคนที่ชอบ (รับบทโดย น้องเน็ท กานดา) เพื่อถ่ายทอดมุมมองความสัมพันธ์ของตัวละครนี้. เขาเสริมว่าการค้นหาลึกๆ เกี่ยวกับตัวตนในประวัติศาสตร์อาจพบแง่มุมที่น่าสนใจได้อีก แต่ในเวลาที่จำกัดเลือกที่จะโฟกัสที่บทเพื่อให้การทำงานราบรื่น.

เรื่องลุกส์ภายนอกก็มีส่วนสำคัญมาก ต้องใส่วิกผมยาว ติดกาวเก็บผม ทำผิวให้เข้มขึ้น และการแต่งกายที่มีทั้งชุดเปลือยท่อนบน ชุดที่ใช้ผ้าเตี่ยวสั้นๆ ในฉากรบหรือชีวิตประจำวัน และชุดเต็มยศในฉากที่เป็นทางการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อความรู้สึกและช่วยให้การแสดงสมจริงมากขึ้น การเปลี่ยนลุกส์ครั้งใหญ่ทำให้รู้สึกเหมือนได้ทรานสฟอร์มตัวเอง.

นอกจากนี้ ยังต้องปรับวิธีการพูดให้เข้ากับภาษาสุโขทัย โดยมีอาจารย์คอยสอนและปรับแก้เสียง ทำให้รู้สึกสนุกและเห็นเสน่ห์ของงานพีเรียด ทั้งเรื่องโลเกชั่น โปรดักชั่น รวมถึงฉากใหญ่ๆ เช่น การชนช้าง ภาพยนตร์เรื่อง “พระร่วง มหาศึกสุโขทัย” มีกำหนดเข้าฉาย 29 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์.

ในพาร์ตของยูทูบเบอร์ แก๊ปเผยว่า ทำช่อง Gapthanavate มาประมาณ 5-6 ปี มีรายได้ที่พอมีต่อเนื่อง ช่วยให้ช่องอยู่ได้ คอนเซ็ปต์ช่องจะเฉพาะกลุ่มสำหรับคนที่ชอบบ้าน สถาปัตยกรรม และดีไซน์ ซึ่งต่อยอดมาจากประสบการณ์การเป็นพิธีกรรายการบ้านและสวน โดยพาไปชมบ้านสวยๆ รีวิวคอนโดฯ โครงการอสังหาฯ และรีวิวผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการออกแบบ ด้วยพื้นฐานการจบภาควิชาออกแบบอุตสาหกรรม ทำให้เขามีความรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์มานำเสนอในมุมที่คนทำคอนเทนต์ด้านนี้ยังไม่เยอะมาก.

ส่วนบทบาทการเป็นคุณพ่อของลูกสาว ‘น้องมามิ’ วัย 7 ขวบ แก๊ปบอกว่าดีใจและเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อมากขึ้น มันเป็นความผูกพันที่ลึกซึ้งจนอธิบายไม่ได้ จากที่ตอนแรกค่อนข้างเฮี้ยบและพยายามดุ แต่ตอนนี้ค่อนข้างแพ้ทางลูก แรกๆ ลูกสาวติดแม่มากกว่า ทำให้รู้สึกน้อยใจ แต่ก็พยายามหาทางใกล้ชิดมากขึ้น.

เขาเผยถึงวิธีการสร้างความผูกพันกับลูกสาววัย 7 ขวบว่า เนื่องจากลูกเรียนอินเตอร์และพูดภาษาอังกฤษ เขาจึงรับหน้าที่พูดภาษาอังกฤษกับลูก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้คุยกันเอง รวมถึงการจอยกันในเรื่องที่ลูกชอบอย่างการร้องเพลง หรือเรื่องเทคโนโลยี เกมส์ ที่คุณแม่ไม่ถนัด ซึ่งทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีตัวตนต่อลูกมากขึ้นจริงๆ.

แก๊ปพบว่าการเปลี่ยนแปลงนี้มาจากการที่เขาต้องฟังลูก ให้เวลา อยู่กับลูก และเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ลูกทำ เช่น เล่นกับลูกแบบเพื่อน แทนที่จะแค่ดูแลหรือดูอยู่ห่างๆ ซึ่งการเข้าไปเล่นและเอ็นจอยไปด้วยกัน ทำให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน.

สำหรับเรื่องชื่อเสียง ลูกสาวรับรู้ประมาณหนึ่ง แต่ยังไม่เคยให้ดูผลงาน เพราะที่ผ่านมาอาจไม่เหมาะกับเด็ก รวมถึงเวลาไปไหนแล้วมีคนมาถ่ายรูป ลูกก็จะมีอาการงงๆ ซึ่งแฟนสาวมักแซวว่าจะมีสักเรื่องไหมที่ลูกดูได้.

เมื่อถูกแซวว่ามักได้รับบทเป็นผู้ชายที่ไว้ใจไม่ได้ แก๊ปเข้าใจและดีใจที่คนอิน แต่ก็มองว่าเป็นเรื่องท้าทายที่ต้องพยายามทลายกำแพงนี้ในผลงานเรื่องต่อๆ ไป เพื่อให้ผู้ชมเปิดใจก่อนที่จะได้ดูการแสดงของเขา.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *