กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ออกมาให้ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ภายหลังมีรายงานข่าวและข้อกังวลเกี่ยวกับการกลับมาระบาดอีกครั้ง

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วยสะสมรวม 53,676 ราย และมีผู้เสียชีวิต 16 ราย

สำหรับจังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยสูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร มีผู้ป่วยสะสม 16,723 ราย ซึ่งเริ่มมีแนวโน้มการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 15 และพบผู้ป่วยสูงสุดในช่วงสัปดาห์ที่ 18 (ระหว่างวันที่ 27 เมษายน – 3 พฤษภาคม) ด้วยจำนวน 14,349 ราย โดยมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ในช่วงเวลาดังกล่าว

รองลงมาคือจังหวัดชลบุรี 1,177 ราย, นนทบุรี 866 ราย และระยอง 553 ราย

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้ให้เห็นถึงข้อมูลที่น่าสนใจในสัปดาห์ล่าสุด คือ สัปดาห์ที่ 19 (ระหว่างวันที่ 4 – 10 พฤษภาคม) ซึ่งพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือ 12,543 ราย “จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า แนวโน้มผู้ติดเชื้อรายใหม่ เริ่มลดลงแล้ว” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ อธิบายว่า การพบผู้ป่วยโควิด-19 อย่างต่อเนื่องนั้น เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากปัจจุบันโรคนี้กลายเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้ว และการแพร่ระบาดมีความสัมพันธ์กับกิจกรรมรวมกลุ่มของผู้คน รวมถึงปัจจัยด้านฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่มักพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น

“จึงขอเน้นย้ำว่า พี่น้องประชาชนไม่ต้องตื่นตระหนก เพราะโควิด-19 ในปัจจุบัน ติดง่าย แต่อาการรุนแรงน้อย แต่ก็ขอให้ระมัดระวัง ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด” เขากล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังได้ย้ำแนวทางการปฏิบัติสำหรับประชาชนในกรณีที่เจ็บป่วยหรือสงสัยว่าติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งประกอบด้วย:

• ข้อ 1: หากมีอาการสงสัยหรือมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น มีไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ให้ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ทันที
• ข้อ 2: หากผลตรวจเป็นบวก ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดทำกิจกรรมร่วมกับคนในครอบครัวและผู้อื่น แยกของใช้ส่วนตัว หากจำเป็นต้องออกจากที่พัก ให้เข้มงวดเรื่องการเว้นระยะห่าง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
• ข้อ 3: กรณีที่มีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น มีไข้ ไอ มีเสมหะ โดยที่อาการไม่รุนแรง แต่ไม่สามารถตรวจ ATK ได้ ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่สาธารณะ หากจำเป็นต้องไป ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
• ข้อ 4: กรณีที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรง เช่น มีไข้สูง หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา
• ข้อ 5: งดหรือหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง 608 หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา

นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้จะช่วยควบคุมการแพร่กระจายของโรค และลดความเสี่ยงต่อตนเองและผู้อื่น โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง