ติดแหง็กบนฝ้า! ผู้ต้องหาหนีตำรวจ ปีนซ่อนในช่องท่อประปา ออกไม่ได้ ต้องกู้ภัยช่วย ก่อนถูกรวบ
ปทุมธานี – เกิดเหตุการณ์ระทึกขณะตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต เข้าจับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง ผู้ต้องหาพยายามหลบหนีด้วยการปีนขึ้นไปซ่อนตัวบนฝ้าเพดาน ก่อนจะเข้าไปติดอยู่ในช่องส่งน้ำประปาแคบ ๆ จนไม่สามารถออกมาได้เอง ต้องประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าช่วยเหลืออย่างทุลักทุลเล ก่อนควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดปทุมธานี ถึงเหตุการณ์การจับกุมผู้ต้องหาที่เต็มไปด้วยอุปสรรค เมื่อตำรวจสถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต ต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในการนำตัวผู้ต้องหาที่พยายามหลบหนีด้วยวิธีสุดพิสดาร ออกมาจากที่ซ่อน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.45 น. ของคืนวันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผู้กำกับการ สภ.ปากคลองรังสิต โดยได้มอบหมายให้ทีมงานฝ่ายสืบสวน ประกอบด้วย พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง รองผู้กำกับการสืบสวน, พ.ต.ต.อิทธิพล พุทธรักษา สารวัตรสืบสวน, ร.ต.อ.จำเริญ ทิสมบูรณ์ และ ร.ต.อ.เกียรติศักดิ์ คำกุล รองสารวัตรสืบสวน นำกำลังพร้อมหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี เลขที่ จ.637/2567 ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ซึ่งออกในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง” เพื่อเข้าทำการจับกุมตัว นายอรรถวิทย์ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเบาะแสว่า นายอรรถวิทย์ ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ห้องพักหมายเลข 45 ชั้น 4 ภายในแฟลตแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลบางพูน อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี จึงได้นำกำลังพร้อมหมายจับเข้าแสดงตัวเพื่อจับกุม เมื่อเดินทางไปถึงห้องพักและทำการเข้าตรวจสอบ ปรากฏว่า นายอรรถวิทย์ ไหวตัวทันและพยายามหลบหนีการจับกุมอย่างสุดกำลัง
ผู้ต้องหาตัดสินใจเลือกวิธีหลบหนีที่ไม่ธรรมดา โดยการปีนขึ้นไปบนฝ้าเพดานของห้องพัก จากนั้นได้มุดข้ามไปยังห้องข้างเคียง และพยายามหาที่ซ่อนตัวเพิ่มเติม ซึ่งสุดท้ายได้เลือกซ่อนตัวอยู่ในช่องส่งน้ำประปา หรือที่เรียกกันว่า “ช่องชาร์ป” ซึ่งเป็นช่องที่มีขนาดเล็กและแคบมาก และมักใช้สำหรับงานระบบภายในอาคาร
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเข้าไปและพบว่าผู้ต้องหาซ่อนตัวอยู่ในจุดที่คับแคบและเข้าถึงยากเช่นนั้น ประกอบกับผู้ต้องหาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองให้ออกมาจากช่องดังกล่าวได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องหยุดปฏิบัติการไล่จับชั่วคราว และประสานขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดอื่น ๆ เพื่อร่วมกันวางแผนและดำเนินการนำตัวผู้ต้องหาออกมาอย่างปลอดภัย
การช่วยเหลือผู้ต้องหาที่ติดอยู่ในช่องส่งน้ำประปาเป็นไปอย่างทุลักทุลเล เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและกู้ภัยต้องทำงานร่วมกันอย่างระมัดระวัง เนื่องจากพื้นที่คับแคบและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ ใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถนำตัวนายอรรถวิทย์ ออกมาจากช่องที่ซ่อนได้อย่างสำเร็จ
หลังจากนำตัวออกมาจากที่ซ่อนได้อย่างปลอดภัยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายอรรถวิทย์ ในสภาพที่ค่อนข้างทุลักทุลเลจากการพยายามหลบหนีและการติดอยู่ในที่แคบ นำตัวมายังสถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต เพื่อทำการสอบสวนอย่างละเอียด และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการหลบหนีของผู้ต้องหาที่อาจนำไปสู่สถานการณ์อันตรายต่อตัวเองได้ และยังสะท้อนถึงการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานกู้ภัยในการคลี่คลายสถานการณ์เฉพาะหน้า เพื่อให้การปฏิบัติงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี.