เลือกตั้งเทศบาล 11 พ.ค. นี้ กกต. ย้ำความพร้อม จับตาพื้นที่แข่งสูง มีร้องเรียน 338 เรื่อง

กรุงเทพฯ – สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศความพร้อมเต็มที่สำหรับการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีทั่วประเทศ ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (11 พฤษภาคม 2568) โดยได้เน้นย้ำให้ประชาชนและผู้สมัครปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมเปิดเผยตัวเลขเรื่องร้องเรียนที่สูงถึง 338 เรื่อง และเตรียมจับตาพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูงเป็นพิเศษ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ สำนักงาน กกต. พ.ต.ท.ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้แถลงต่อสื่อมวลชนถึงความคืบหน้าและความพร้อมในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งสำคัญนี้ โดยระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จัดขึ้นในเทศบาลจำนวน 2,463 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็น เทศบาลนคร 33 แห่ง, เทศบาลเมือง 213 แห่ง, และเทศบาลตำบล 2,217 แห่ง

สำหรับรายละเอียดการเลือกตั้งนั้น เทศบาลจำนวน 2,128 แห่ง จะเลือกเฉพาะนายกเทศมนตรี มีผู้สมัครทั้งสิ้น 4,558 คน ขณะที่การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลจะมีขึ้นใน 2,462 แห่ง สามารถเลือกสมาชิกได้เขตละ 6 คน รวมทั้งสิ้น 33,346 คน จากจำนวนผู้สมัคร 60,515 คน

พ.ต.ท.ระพีพงษ์ ชี้แจงเพิ่มเติมถึงกรณีพิเศษ โดยมีเทศบาล 1 แห่ง คือ เทศบาลตำบลน้ำยืน อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่เลือกเฉพาะนายกเทศมนตรี เนื่องจากสมาชิกสภาเทศบาลเดิมมีการยุบสภาไปก่อนหน้า ส่วนอีก 335 แห่ง จะเลือกตั้งเฉพาะสมาชิกสภาเทศบาล เนื่องจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีพ้นวาระด้วยเหตุอื่น

ด้านความพร้อมในการจัดการเลือกตั้ง รองเลขาธิการ กกต. ยืนยันว่า เทศบาลทุกแห่งได้รับมอบวัสดุอุปกรณ์สำหรับการเลือกตั้งครบถ้วนแล้ว โดยคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้รับมอบเพื่อนำไปจัดเก็บในที่ปลอดภัย และดำเนินการจัดเตรียมสถานที่เลือกตั้งให้พร้อมสำหรับการลงคะแนนในวันพรุ่งนี้

สิ่งที่ กกต. เน้นย้ำเป็นพิเศษคือข้อพึงระวังและข้อห้ามตามกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งมีโทษร้ายแรง หากฝ่าฝืน ได้แก่:

  • ห้ามหาเสียง ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 10 พ.ค. 68 จนถึงเวลา 00.00 น. ของวันที่ 11 พ.ค. 68 โดยเฉพาะผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การแชร์โพสต์ หรือส่งข้อความทางไลน์
  • ห้ามขัดขวางหรือหน่วงเหนี่ยว ผู้มีสิทธิไม่ให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
  • ห้ามมิให้นายจ้างหรือผู้บังคับบัญชา ขัดขวางลูกจ้างหรือผู้ใต้บังคับบัญชาไปใช้สิทธิ
  • ห้ามขายหรือจะจ่ายสุรา ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 10 พ.ค. 68 จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันที่ 11 พ.ค. 68
  • ห้ามผู้สมัครจัดยานพาหนะ นำหรือส่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป-กลับหน่วยเลือกตั้งโดยไม่คิดค่าโดยสาร
  • ห้ามเล่นหรือจัดให้มีการพนัน เกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง

ผู้ฝ่าฝืนข้อห้ามเหล่านี้ อาจมีโทษจำคุก ปรับ หรือถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 6 เดือน จนถึง 20 ปี ขึ้นอยู่กับลักษณะความผิด

ประเด็นเรื่องร้องเรียนก็เป็นอีกสิ่งที่ กกต. เฝ้าระวัง โดย พ.ต.ท.ระพีพงษ์ เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ประกาศให้มีการเลือกตั้ง จนถึงวันที่ 9 พฤษภาคม มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาแล้วทั้งหมด 338 เรื่อง แบ่งเป็นคำร้องเรียนอย่างเป็นทางการ 335 เรื่อง และกรณีความปรากฏ 3 เรื่อง ซึ่งขณะนี้พิจารณาแล้วเสร็จเพียง 7 เรื่อง ที่เหลืออยู่ระหว่างการดำเนินการของแต่ละจังหวัด แม้จะยังไม่ได้จำแนกรายละเอียดทั้งหมด แต่ยืนยันว่ามีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการซื้อสิทธิ์ขายเสียงรวมอยู่ด้วย

เมื่อสอบถามถึงพื้นที่ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ พ.ต.ท.ระพีพงษ์ กล่าวว่า กกต. ให้ความสำคัญและจับตาพื้นที่ที่มีการแข่งขันทางการเมืองสูง โดยเฉพาะเทศบาลนครขนาดใหญ่ เช่น เชียงใหม่ นครราชสีมา และพัทยา ซึ่งมีการตั้งด่านตรวจสอบตั้งแต่คืนวันที่ 9 พฤษภาคม นอกจากนี้ ยังได้กำชับทุกหน่วยให้เตรียมความพร้อมสถานที่รองรับเหตุการณ์ที่อาจทำให้ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ เช่น กรณีฝนตกหนักหรือพายุเข้าในหลายพื้นที่ขณะนี้

กกต. ขอเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกคนออกมาใช้สิทธิในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 เวลา 08.00-17.00 น. เพื่อเลือกผู้แทนท้องถิ่นเข้าไปพัฒนาบ้านเมือง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *