รุดช่วย ด.ญ. 13 เหยื่อแม่ติดยาบ้า ทำร้ายน่วมทั้งตัวประจำ ชาวบ้านสุดทนพฤติกรรมแจ้งฝ่ายปกครองสุพรรณบุรี

รุดช่วย ด.ญ. 13 เหยื่อแม่ติดยาบ้า ทำร้ายน่วมทั้งตัวประจำ ชาวบ้านสุดทนพฤติกรรมแจ้งฝ่ายปกครองสุพรรณบุรี

สุพรรณบุรี – วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 นายรัชกฤต พยัคฆ์ นายอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนจากผู้นำชุมชนในพื้นที่ว่า มีเหตุการณ์แม่ทำร้ายร่างกายลูกสาวของตนเองซึ่งมีอายุเพียง 13 ปี โดยผู้เป็นแม่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการเสพยาเสพติด

ภายหลังรับแจ้งเรื่อง นายอำเภอสองพี่น้องไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้ นายนเรศ หนูทอง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง นำกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) อำเภอสองพี่น้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมประสานความร่วมมือกับ นายชลิต โพธิ์พันธุิ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวโพธิ์, นายชัยยุทธ อริกุล กำนันตำบลหัวโพธิ์, นายประจวบ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี (พมจ.สุพรรณบุรี) เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือ

เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางถึงบ้านเป้าหมายในพื้นที่หมู่ 7 ตำบลหัวโพธิ์ อำเภอสองพี่น้อง ได้พบกับเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี นั่งอยู่บริเวณหน้าบ้าน ในสภาพที่มีบาดแผลฟกช้ำและรอยแดงปรากฏอยู่ทั่วทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัว เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปปลอบโยนและให้การปฐมพยาบาลทำแผลเบื้องต้นให้กับเด็กอย่างเร่งด่วน

จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปพูดคุยและเจรจากับ น.ส.ไก่ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นมารดาของเด็กหญิงบี พบว่าอยู่ในอาการสะลึมสะลือคล้ายคนมึนเมายาเสพติด และพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง เมื่อสอบถาม น.ส.ไก่ ให้การยอมรับว่าได้ทำร้ายร่างกายลูกสาวจริง โดยใช้ไม้ฟาดไปตามร่างกายและใบหน้า เนื่องจากความโมโหที่ลูกสาวขัดใจ

เจ้าหน้าที่ได้แยกเด็กหญิงบีออกมาพูดคุยเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เด็กหญิงบีเล่าด้วยความหวาดกลัวว่า ผู้เป็นแม่มักจะทำร้ายร่างกายตนเป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงที่ไม่ได้เสพยาเสพติดหรือเมื่อรู้สึกไม่พอใจ แม่ก็จะอาละวาดและใช้ไม้ตีทั้งที่ใบหน้าและลำตัว และบางครั้งก็เห็นแม่นำยาเสพติดมาเสพให้ดูต่อหน้า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบ่อยครั้งจนตนรู้สึกหวาดผวาเมื่อเห็นแม่

เด็กหญิงบีซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อาศัยอยู่กับแม่และยาย โดยผู้เป็นแม่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่เมื่อได้เงินมามักจะนำไปซื้อยาเสพติดมาเสพ และใช้ไม้ทำร้ายลูกสาวตนเองอยู่เป็นประจำ แม้ว่าเด็กหญิงบีจะช่วยทำงานบ้าน ทั้งหุงข้าวและล้างจานก็ตาม พฤติกรรมดังกล่าวทำให้ญาติและชาวบ้านในพื้นที่ต่างก็ทนไม่ไหวและเอือมระอาเป็นอย่างมาก จึงได้ร่วมกันแจ้งเรื่องไปยังฝ่ายปกครองอำเภอสองพี่น้องเพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ

ที่ผ่านมา ญาติของ น.ส.ไก่ เคยพยายามห้ามปรามและตักเตือนหลายครั้งแล้ว แต่ น.ส.ไก่ ก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เนื่องจากยังคงมีอาการติดยาบ้า ทำให้มีพฤติกรรมที่รุนแรง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้นำชุมชนและชาวบ้านตัดสินใจประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและ พมจ. เพื่อให้เข้าดำเนินการแก้ไขปัญหา

ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.ไก่ ไปทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งผลปรากฏว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงได้ควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสองพี่น้อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป โดยถูกแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย”

สำหรับเด็กหญิงบี ทางญาติแสดงความจำนงที่จะรับไปดูแลและให้การศึกษาต่อ ทางเจ้าหน้าที่ พมจ.สุพรรณบุรี จึงได้ดำเนินการจัดทำบันทึกข้อตกลงระหว่างมารดา (น.ส.ไก่), ญาติที่ยินยอมรับดูแล, และตัวเด็กหญิงบี เพื่อยืนยันความยินยอมในการให้ญาติเป็นผู้ปกครองดูแลและให้การศึกษาแก่เด็กต่อไป พร้อมทั้งมีข้อห้ามมิให้มารดาเข้าทำร้ายร่างกายเด็กอีกในอนาคต การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นการให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองเด็กในเบื้องต้น เพื่อให้เด็กได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *