กรุงเทพฯ – บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCBX กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงินชั้นนำของไทย ได้เปิดตัวรายงาน “SCBX AI Outlook 2025: Beaconing the Future of Artificial Intelligence” ซึ่งเป็น AI whitepaper สรุปเทรนด์สำหรับธุรกิจฉบับแรกในไทย

รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นคู่มือเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็น AI-first Organization โดยมีเป้าหมายในการแบ่งปันวิสัยทัศน์และประสบการณ์จริงในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI ในบริบททางธุรกิจที่หลากหลาย เพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถนำไปเป็นแนวทางในการปรับตัวและเตรียมความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นของ SCBX ในการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างเต็มรูปแบบ โดยตั้งเป้าหมายสร้างรายได้จาก AI ให้ได้ถึง 75% ภายในปี 2570

นายกวีวุฒิ เต็มภูวภัทร Chief Innovation Officer บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รายงาน “SCBX AI Outlook 2025” นำเสนอเทรนด์สำคัญ 4 ประการ ที่คาดว่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ในปี 2568 และปีต่อๆ ไป ได้แก่:

• Open vs Closed AI: ช่องว่างระหว่าง AI แบบเปิด (Open AI) และแบบปิด (Closed AI) ที่ลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมนัยสำคัญทางธุรกิจที่ต้องจับตา
• More versatile, Smaller, Smarter AI: การมาถึงของยุคใหม่แห่ง AI ที่มีขนาดเล็กลง ใช้ได้หลากหลายขึ้น และมีความสามารถใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น
• Rise of Agentic AI: การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ AI ที่มีความสามารถในการวางแผน ให้เหตุผล และดำเนินการต่างๆ ได้ด้วยตนเองโดยไม่จำเป็นต้องรับคำสั่งทีละขั้นตอน
• The Road to AGI: ความท้าทายและโอกาสในการพัฒนาไปสู่ Artificial General Intelligence (AGI) หรือ AI ที่มีความสามารถระดับเดียวกับมนุษย์

นายกวีวุฒิ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มเอสซีบีเอกซ์มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยตั้งเป้าหมายเชิงรุกในการสร้างรายได้ถึง 75% จาก AI ภายในปี 2570 เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ SCBX กำลังเร่งพัฒนาความสามารถด้าน AI ขั้นสูงผ่านการใช้ข้อมูลเชิงลึกและการวิจัยพัฒนาอย่างเข้มข้น ควบคู่ไปกับการนำหลักการ AI ที่มีความรับผิดชอบ (Responsible AI) มาปรับใช้เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยวิสัยทัศน์และเป้าหมายดังกล่าว SCBX ได้จัดตั้ง SCBX R&D Innovation Lab ขึ้น เพื่อเป็นหน่วยงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน AI ให้กับทั้งกลุ่มเอสซีบีเอกซ์ โดยจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทในกลุ่ม เช่น SCB 10X และ DataX เพื่อสร้างและผลักดันต้นแบบเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงไปสู่การใช้งานจริง เพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่จับต้องได้

นอกจากนี้ SCBX R&D Innovation Lab ยังทำงานร่วมกับองค์กรภายนอกเพื่อสร้างสรรค์และขับเคลื่อนโครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อวงกว้าง เช่น โครงการ Typhoon Thai LLM ซึ่ง SCBX ใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมโยงและสร้างประโยชน์ร่วมกันกับพันธมิตรจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งสถาบันการศึกษา สตาร์ทอัพ และหน่วยงานภาครัฐ

“รายงาน SCBX AI Outlook 2025 นี้ถือเป็นตัวอย่างสำคัญของการแบ่งปันวิสัยทัศน์ด้าน AI ของเรา ซึ่งไม่เพียงแต่นำเสนอมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์ AI ที่กำลังจะมาถึงเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงการนำ AI ไปประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติผ่านโปรเจกต์และกรณีศึกษาต่างๆ เพื่อให้เห็นภาพการสร้างคุณค่าที่ชัดเจน ทั้งต่อบริษัทภายในกลุ่มเอสซีบีเอกซ์ ลูกค้า พันธมิตร ตลอดจนสังคมโดยรวม” นายกวีวุฒิ กล่าว

ด้านนายทุตานนท์ สินธุประสิทธิ์ R&D and Innovation Lab Lead บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เสริมว่า ในยุคที่ AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ กำลังเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจด้วยความเร็วที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน SCBX รู้สึกยินดีที่ได้แบ่งปันประสบการณ์ตรงจากการพัฒนาและประยุกต์ใช้ AI ในบริบทธุรกิจต่างๆ ผ่านรายงาน SCBX AI Outlook 2025

รายงานนี้สรุปเทรนด์ AI ที่สำคัญ 4 ประการที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมพลิกโฉมอุตสาหกรรม ครอบคลุมทั้งด้านงานวิจัยและพัฒนา พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงตัวอย่างการนำ AI ไปใช้งานจริงในหลากหลายภาคส่วน เช่น:

• Typhoon Thai LLM ที่โรงพยาบาลศิริราช (SiData+): ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการความรู้ ลดภาระงานบุคลากร และยกระดับการดูแลผู้ป่วย
• “สมหมาย” แชทบอทกฎหมาย: ให้คำปรึกษาและคำตอบที่แม่นยำครอบคลุมกฎหมายไทยกว่า 35 ด้าน
• ความร่วมมือกับ TDRI: วิเคราะห์แนวโน้มตลาดแรงงานและทักษะที่ต้องการ เพื่อสนับสนุนการกำหนดนโยบายแรงงาน
• AI Voice Trainer: ยกระดับศักยภาพทีมขายประกันด้วยการฝึกอบรมเฉพาะบุคคลตลอด 24 ชั่วโมง
• แพลตฟอร์มที่ปรึกษาทางการเงินด้วย Agentic AI: ช่วยให้ที่ปรึกษาให้คำแนะนำที่ปรับตามสภาวะตลาดได้แบบเรียลไทม์

SCBX มุ่งมั่นที่จะแบ่งปันข้อมูลเชิงกลยุทธ์และกรณีศึกษาที่เป็นประโยชน์ผ่านรายงานนี้ เพื่อช่วยให้ผู้นำองค์กรและกลุ่มคอมมูนิตี้ด้าน AI สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้กับองค์กรหรืองานของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น