กรุงเทพฯ – ภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ ท้องสนามหลวง เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเข้าสู่บ้านพิษณุโลก เพื่อจัดประชุมหารือประเด็นสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

การประชุมดังกล่าวมีขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ของวันที่ 9 พฤษภาคม โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดูแลความมั่นคงและฝ่ายปกครองในพื้นที่เข้าร่วม ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

แหล่งข่าวระบุว่า การหารือครั้งนี้เป็นการติดตามสถานการณ์ความรุนแรงและการดำเนินการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญและติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะหลังจากที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่

การประชุมที่บ้านพิษณุโลกนี้ ถือเป็นการสานต่อจากการหารือเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เชิญ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เข้าหารือถึงสถานการณ์เดียวกัน ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยการประชุมทั้งสองครั้งสะท้อนให้เห็นถึงความเร่งด่วนที่รัฐบาลมองต่อสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ และความพยายามในการบูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง รวมถึงพลเรือน

ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดล้วนเป็นหัวเรือใหญ่ของหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาความสงบเรียบร้อย การพัฒนา และการบริหารจัดการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การหารือร่วมกันในครั้งนี้จึงมีเป้าหมายเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ประเมินสถานการณ์ล่าสุด วางแนวทาง ตลอดจนประสานการปฏิบัติระหว่างกระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกมิติ ทั้งในด้านความมั่นคง การบังคับใช้กฎหมาย การพัฒนาคุณภาพชีวิต และการส่งเสริมกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข

คาดว่าผลจากการหารือในครั้งนี้จะนำไปสู่การปรับปรุงแผนการปฏิบัติงาน หรือการออกมาตรการใหม่ๆ ที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงทีและตรงจุดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามเหตุรุนแรง รวมถึงการสร้างความเข้าใจและความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและนำความสงบสุขกลับคืนสู่พื้นที่โดยเร็ว

รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีได้แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนที่จะให้ความสำคัญสูงสุดกับการสร้างสันติสุขที่ยั่งยืนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการประชุมร่วมกับหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงและฝ่ายปกครองในครั้งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด โดยคาดว่าจะมีการติดตามผลและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องในอนาคต