กรุงเทพฯ – บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งภายใต้แบรนด์ “แม็คโคร” และค้าปลีกภายใต้แบรนด์ “โลตัส” เผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2568 ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง

นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 129,950 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิหลังรายการปรับปรุงเติบโตขึ้น 10.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตที่ดีในทุกมิติ

ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตนี้ มาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งจากธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก โดยมีแรงหนุนจากการเปิดสาขาใหม่ การขายนอกร้าน (O2O) และที่โดดเด่นคือ การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของการขายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารสด กลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (Private label) และสินค้าแบรนด์ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่แม็คโคร-โลตัส เท่านั้น (Exclusive brand) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง

นอกจากนี้ การผนึกกำลังและเพิ่มมูลค่าจากการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มธุรกิจ (Synergistic value) ยังช่วยสนับสนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการบริหารจัดการด้านการเงินที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการลดภาระหนี้และปรับปรุงกระแสเงินสด ส่งผลให้ CPAXT มีสภาพคล่องที่แข็งแรงและฐานะทางการเงินที่มั่นคง

ความสำเร็จของ CPAXT ยังตอกย้ำผ่านการยอมรับในระดับสากล โดย Euromonitor International ได้จัดอันดับให้ Makro PRO เป็นแพลตฟอร์ม Grocery E-Commerce อันดับ 1 ของประเทศไทยในปี 2567 ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 39.5% ในขณะที่ Lotus’s SMART App ตามมาเป็นอันดับสอง ด้วยส่วนแบ่งตลาด 19.5% จากมูลค่าตลาด Grocery E-Commerce ของประเทศไทยรวม 64,000 ล้านบาท

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 ซีพี แอ็กซ์ตร้า จะยังคงเดินหน้าผลักดันกลยุทธ์หลัก มุ่งสร้างการเติบโตในทุกช่องทางจำหน่าย โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการขายผ่านออนไลน์และการขายนอกร้าน ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม พร้อมนำเทคโนโลยี AI มาวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบ Hyper-Personalization เพื่อนำเสนอสินค้าได้อย่างแม่นยำและเพิ่มอัตราการตัดสินใจซื้อ

ควบคู่ไปกับการขยายสาขา ปรับโฉมสาขา และพัฒนาพื้นที่เช่าอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิดการเป็น‘พื้นที่ความสุขของชุมชน’ ที่ออกแบบให้ตรงกับความต้องการเฉพาะของแต่ละชุมชน เพื่อร่วมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีตามวิถีความยั่งยืน ทั้งในด้านการเป็นแหล่งอาหารและสุขภาพ การสร้างงานสร้างอาชีพให้คนในพื้นที่ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการมิตรแท้โชห่วย โครงการ 60 ยังแจ๋ว รวมถึงการรับซื้อสินค้าจากเกษตรกรและ SMEs ท้องถิ่นโดยตรง พร้อมจัดกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกับชุมชนอย่างสม่ำเสมอ