รูเบน อโมริม โว แมนยูฯ คู่ควรชิงยูโรปา! ลั่นคว้าแชมป์ไถ่โทษแฟนบอลหลังผลงานลีกน่าผิดหวัง
รูเบน อโมริม หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาเปิดเผยหลังนำทัพ ‘ปีศาจแดง’ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก ฤดูกาล 2024-25 ได้สำเร็จ โดยยืนยันว่าทีมของเขาคู่ควรกับตำแหน่งนี้แล้ว พร้อมตั้งเป้าหมายใหญ่คือการคว้าถ้วยแชมป์มาครอง เพื่อเป็นการตอบแทนและมอบความสุขให้กับแฟนบอลที่ต้องผิดหวังกับผลงานในศึกพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้
ทัพ ‘ปีศาจแดง’ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือชาวโปรตุเกสวัย 40 ปี เพิ่งโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมในรอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2025 ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา ทีมแกร่งจากสเปนไปอย่างขาดลอย 4-1 ส่งผลให้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวมสองนัดท่วมท้น 7-1
การเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีคิวเข้าไปเผชิญหน้ากับคู่ปรับร่วมลีกสูงสุดอย่าง ‘ไก่เดือยทอง’ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ โดยมีสนาม ซาน มาเมส รังเหย้าของ แอธเลติก บิลเบา เป็นสังเวียนแข้งนัดสำคัญ
หลังจบเกมการแข่งขันที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รูเบน อโมริม ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกและความมั่นใจในทีมของเขา โดยกล่าวว่า “เราสมควรที่จะได้เข้าชิงชนะเลิศ หากคุณพิจารณาจากผลงานของเราในทั้งสองนัดที่ผ่านมา” เขายังกล่าวต่อว่า สิ่งที่เขากังวลในตอนนี้คือการเตรียมทีมสำหรับเกมนัดชิง และพยายามไม่ให้ผู้เล่นคนใดได้รับบาดเจ็บก่อนถึงนัดสำคัญนั้น
อโมริมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการคว้าแชมป์ โดยระบุว่า “ถ้าเราไม่ได้แชมป์ มันก็ไม่มีความหมายอะไรสำหรับเราเลย” แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าของเขาและทีม
กุนซือปีศาจแดงยังได้กล่าวถึงความสัมพันธ์กับแฟนบอลที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด แม้ว่าผลงานในพรีเมียร์ลีกจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง “มันยากที่จะอธิบายว่าการเป็นผู้จัดการทีมของสโมสรแห่งนี้เป็นอย่างไร และคุณต้องการที่จะมอบบางสิ่งบางอย่างให้กับพวกเขา (แฟนบอล) เพราะเราทำให้พวกเขาผิดหวังอย่างมากในพรีเมียร์ลีก เราจึงต้องการที่จะมอบบางสิ่งบางอย่างให้กับแฟนบอลเป็นการตอบแทน”
เมื่อถูกถามถึงคู่แข่งในรอบชิงอย่าง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่คุมทีมโดย อันเจลอส ปอสเตโคกลู ซึ่งก็ประสบปัญหาคล้ายคลึงกันในฤดูกาลนี้ อโมริมมองว่า “มันค่อนข้างคล้ายกันสำหรับผมและ อันเจลอส มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับเราทั้งคู่ และคนใดคนหนึ่งในพวกเราจะต้องเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุด มันจะเป็นนัดชิงชนะเลิศที่ยิ่งใหญ่ และเราจะทุ่มเททุกอย่างเพื่อคว้าชัยชนะให้ได้”
ความสำเร็จในการเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูโรปา ลีก ถือเป็นความหวังสุดท้ายของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการคว้าถ้วยรางวัลในฤดูกาลนี้ และการคว้าแชมป์ได้สำเร็จจะเป็นการปิดฉากฤดูกาลที่น่าผิดหวังในลีกได้อย่างสวยงาม และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับทั้งนักเตะ สโมสร และที่สำคัญที่สุดคือแฟนบอลผู้ภักดี