ไทยเฮ! ฟิลิปปินส์เปิดตลาด ‘เนื้อไก่-เป็ดดิบ’ ครั้งแรก รับรอง 2 โรงงาน ‘นฤมล’ มั่นใจโกย 5 พันตัน/ปี

ฟิลิปปินส์ เปิดตลาดนำเข้าเนื้อไก่และเนื้อเป็ดดิบจากประเทศไทยได้เป็นครั้งแรก หลังการเจรจาระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ประสบความสำเร็จ โดยได้ให้การรับรองแล้ว 2 โรงงานผู้ส่งออกของไทย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ ชี้เป็นโอกาสทองของเกษตรกรไทยและภาคการส่งออกสินค้าเกษตร คาดเบื้องต้น 2 โรงงานนี้จะสามารถส่งออกได้ถึง 5,000 ตันต่อปี สร้างมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท และมีโอกาสขยายตัวได้อีกมหาศาลในอนาคต

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุดของการเปิดตลาดส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปยังประเทศฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ปีกดิบ ว่า ตามที่ตนได้หารือกับ H.E. Francisco P. Tiu Laurel, Jr. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเปิดตลาดเนื้อสัตว์ปีกดิบ เช่น ไก่และเป็ดจากไทยนั้น ขณะนี้ได้รับข่าวดีอย่างเป็นทางการแล้ว

กรมปศุสัตว์ได้รับแจ้งจากสถานทูตฟิลิปปินส์ ประจำประเทศไทยว่า หน่วยงาน National Veterinary Quarantine Service Division ของ Bureau of Animal Industry (BAI) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านปศุสัตว์ของฟิลิปปินส์ ได้ให้การรับรองสถานประกอบการผลิตเนื้อสัตว์ปีกของไทยจำนวน 2 แห่ง ให้เป็นผู้ส่งออกเนื้อสัตว์ปีกดิบไปยังประเทศฟิลิปปินส์ได้สำเร็จ โดยสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองได้แก่ EST. 14 บางกอกแรนช์ และ EST. 79 พนัสโพลทรีย์ ซึ่งได้มีการลงนามรับรองเรียบร้อยแล้ว

นางนฤมล กล่าวต่อว่า ขณะนี้เหลือเพียงกระบวนการขั้นสุดท้ายคือ การเตรียมการเผยแพร่ต่อสาธารณะในฟิลิปปินส์ และหน่วยงาน BAI ได้ขอความร่วมมือจากกรมปศุสัตว์ไทยในการจัดส่งตัวอย่างหนังสือรับรองสุขภาพ (Health Certificate) สำหรับเนื้อสัตว์ปีก เพื่อนำไปพิจารณาข้อความรับรองต่างๆ ซึ่งกรมปศุสัตว์จะเร่งดำเนินการจัดส่งร่างหนังสือ Health Certificate ให้ทาง BAI โดยเร็วที่สุด

เรื่องนี้ถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งและเป็นผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมจากการเจรจาที่ผ่านมา เพราะนับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยจะสามารถส่งออกเนื้อไก่และเนื้อเป็ดดิบไปยังตลาดฟิลิปปินส์ได้ จากเดิมที่เคยส่งออกได้เฉพาะไก่สุกเท่านั้น ซึ่งตลาดเนื้อสัตว์ปีกดิบนั้นมีขนาดใหญ่กว่าตลาดไก่สุกมาก การเปิดตลาดครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสทองอันยิ่งใหญ่สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่และเป็ด รวมถึงอุตสาหกรรมสัตว์ปีกของไทย

คาดการณ์ว่า ในช่วงแรก โรงงานทั้ง 2 แห่งที่ได้รับการรับรองนี้ จะสามารถส่งออกเนื้อสัตว์ปีกดิบไปยังฟิลิปปินส์ได้ปริมาณรวมประมาณ 5,000 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และหากมีการขยายการรับรองไปยังโรงงานอื่นๆ ของไทยอย่างต่อเนื่องในอนาคต ประเทศไทยมีโอกาสที่จะเข้าครองส่วนแบ่งทางการตลาดเนื้อสัตว์ปีกดิบที่ฟิลิปปินส์นำเข้าได้สูงถึงประมาณ 25% ซึ่งจะมีมูลค่านับหมื่นล้านบาทต่อปี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ความสำเร็จในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเพิ่มมูลค่าการส่งออกและสร้างรายได้ให้กับประเทศ แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสครั้งสำคัญให้กับเกษตรกรไทยให้มีช่องทางในการจำหน่ายผลผลิตเพิ่มมากขึ้น และเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพมาตรฐานของสินค้าปศุสัตว์ไทยในเวทีโลก.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *