กรุงเทพฯ – สืบนครบาล 3 บุกรวบตัว “น้องแป้ง” สาวบัญชีม้าเทาเข้ม กลางลานจอดรถห้างดังย่านศรีนครินทร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชนและอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหลายคดี เจ้าตัวรับสารภาพเปิดบัญชีม้าขายให้กลุ่มมิจฉาชีพ ทราบดีว่าต้องโดนจับและมีหมายจับจำนวนมากติดอยู่ที่บ้าน ย้ำเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อรับจ้างเปิดบัญชีม้า เสี่ยงถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น., พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3, พ.ต.อ.สุทธิศักดิ์ วันที รอง ผบก.น.3, พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สส.บก.น.3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.3 นำโดย พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สส.บก.น.3 และ พ.ต.ท.ชำนาญ โพธิ์น้อย สว.กก.สส.บก.น.3 ร่วมกันเข้าจับกุม น.ส.พรรณิพา เพียนามโคตร หรือ “น้องแป้ง” อายุ 24 ปี

ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาล 3 หมาย ได้แก่ หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1498/67 ลงวันที่ 14 พ.ย.67, หมายจับศาลจังหวัดน่าน (สาขาปัว) ที่ จ 249/67 ลงวันที่ 26 พ.ย.67 และหมายจับศาลจังหวัดอ่างทอง ที่ 254/67 ลงวันที่ 27 พ.ย.67 ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ และเปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตน โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” โดยจับกุมได้ที่บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้า ถนนศรีนครินทร์ แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากปัญหาการฉ้อโกงออนไลน์ที่สร้างความเสียหายจำนวนมาก หนึ่งในเครื่องมือสำคัญของกลุ่มมิจฉาชีพคือ “บัญชีม้า” ซึ่งเป็นบัญชีธนาคารที่เปิดโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้กระทำผิดจริง โดยจะได้รับค่าจ้างหรือผลตอบแทนในการเปิดบัญชี แล้วมอบข้อมูลการเข้าถึงบัญชีให้กับกลุ่มมิจฉาชีพนำไปใช้ในการทำธุรกรรมผิดกฎหมาย

ปัจจุบัน ธนาคารแห่งประเทศไทยได้แบ่งระดับความเสี่ยงของบัญชีม้าเป็นกลุ่มสี เพื่อความชัดเจนในการป้องกันและปราบปราม ได้แก่ ม้าดำ (ประกาศรายชื่อโดย ปปง.), ม้าเทาเข้ม (ผู้เสียหายแจ้งความแล้ว), ม้าเทาอ่อน (ผู้เสียหายยังไม่แจ้งความ), ม้าน้ำตาลเข้ม (สถาบันการเงินมั่นใจและแจ้งความ) และม้าน้ำตาลอ่อน (สถาบันการเงินสงสัยว่าเป็นบัญชีม้า)

น.ส.พรรณิพา หรือ “น้องแป้ง” ตกเป็นผู้ต้องหาในระดับ “ม้าเทาเข้ม” ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความแล้วทั้งในพื้นที่ บก.น.3 และพื้นที่อื่น ๆ เจ้าหน้าที่สืบนครบาล 3 ได้เร่งรัดติดตามจนทราบว่า “น้องแป้ง” หลบหนีไปทำงานอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าย่านศรีนครินทร์ ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด

จากการสอบสวน “น้องแป้ง” ยอมรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ได้เปิดบัญชีธนาคารหลายบัญชีและนำไปขายให้กับกลุ่มผู้รับซื้อบัญชีม้าที่ประกาศหาทางเฟซบุ๊กในราคาบัญชีละ 1,500 บาท โดยรู้ดีว่าบัญชีเหล่านั้นจะถูกนำไปใช้ในการหลอกลวงออนไลน์ และทราบดีว่าตนเองต้องถูกออกหมายจับอย่างแน่นอน ซึ่งน่าจะมีหมายจับมากกว่า 3 หมายที่เจ้าหน้าที่แสดงให้ดู เนื่องจากทางบ้านแจ้งมาว่ามีหมายเรียกและหมายจับจากหลายหน่วยงาน ส่งไปติดไว้ที่หน้าบ้านเป็นจำนวนมาก

สำหรับคดีที่เกี่ยวข้องกับหมายจับ 3 หมาย มีรายละเอียดดังนี้:

• หมายจับศาลอาญามีนบุรี (สน.มีนบุรี): เป็นคดีหลอกลวงทำงาน Part-Time บรรจุสินค้า โดยผู้เสียหายถูกชักชวนผ่านเฟซบุ๊กชื่อ “THAI CRF” และติดต่อผ่านไลน์ “พิมย์ ดีปะภา” และ “หัวหน้า นิรชา” มิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินค่าสมัครสมาชิกและค่าประกันสินค้าเข้าบัญชีของ น.ส.พรรณิพา ครั้งละ 1,144 บาท จำนวน 4 ครั้ง
• หมายจับศาลจังหวัดอ่างทอง (สภ.วิเศษชัยชาญ): เป็นคดีหลอกลงทุนเทรดหุ้นต่างประเทศ ผู้เสียหายถูกชวนให้ร่วมลงหุ้น เริ่มจากลงทุนน้อยๆ ถอนได้จริง จากนั้นเมื่อลงทุนเพิ่มขึ้น มิจฉาชีพจะอ้างเหตุต่างๆ เช่น ไม่ใช่สมาชิกวีไอพี, เลขบัญชีไม่ถูกต้อง, ต้องจ่ายภาษี, ต้องชำระค่ารักษาความปลอดภัย และให้เติมเงินเพิ่มเพื่อปลดระงับบัญชี ทำให้ผู้เสียหายหลงโอนเงินรวมกว่า 313,902 บาท เข้าบัญชีที่เชื่อมโยง
• หมายจับศาลจังหวัดน่าน (สาขาปัว) (สภ.เชียงกลาง): เป็นคดีหลอกลวงทำงาน Part-Time บรรจุสินค้าเช่นกัน โดยผู้เสียหายถูกชักชวนผ่านเฟซบุ๊กและหลอกให้โอนเงินเป็นค่ามัดจำจำนวน 24,990 บาท ต่อมาอ้างว่าทำงานไม่สำเร็จให้โอนเพิ่มอีก 80,000 บาท แต่ผู้เสียหายไหวตัวทันไม่โอนเพิ่ม ทำให้สูญเงินไป 24,990 บาท เข้าบัญชีที่เชื่อมโยง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.พรรณิพา ส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป