แพทยสภาสั่งลงโทษแพทย์ 3 ราย ปมการรักษา ‘ทักษิณ’ ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชี้หลักฐานไม่ชัดว่าอาการวิกฤตจริง
กรุงเทพฯ — แพทยสภาได้มีคำสั่งลงโทษทางวินัยแก่แพทย์ 3 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการเข้าพักรักษาตัวของอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างการรับโทษจำคุกหนึ่งปี ซึ่งกรณีนี้ได้กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ยืนยันว่าบิดาของเธอ “ป่วยจริง”
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา รองประธานแพทยสภาคนที่ 1 ได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภาในประเด็นการนำส่งตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารักษาที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษจำคุกหนึ่งปี มีมติให้ลงโทษแพทย์ 3 ราย
รายละเอียดของการลงโทษคือ แพทย์ 1 ราย ได้รับคำตักเตือน เนื่องจากปฏิบัติงานไม่เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ ส่วนแพทย์อีก 2 ราย ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม เนื่องจากให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประสิทธิ์ ระบุว่า แพทยสภาจะนำมตินี้เสนอต่อประธานแพทยสภาพิเศษ หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประสิทธิ์ กล่าวว่า “จากข้อมูลที่เราได้รับมา ไม่ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีอาการวิกฤต นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงได้มีบทลงโทษเหล่านี้ รวมถึงการพักใช้ใบอนุญาต ซึ่งถือเป็นบทลงโทษที่รุนแรง”
“วันนี้เรายังไม่สามารถระบุได้ว่าระยะเวลาในการพักใช้ใบอนุญาตนานเท่าใด เพราะเรื่องนี้จะต้องนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน” ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประสิทธิ์ กล่าวเสริม พร้อมระบุว่า หากรัฐมนตรีเห็นชอบตามมติดังกล่าว ก็จะดำเนินการตามนั้น แต่หากไม่เห็นชอบ เรื่องก็จะกลับมาที่บอร์ดแพทยสภาอีกครั้ง ดังนั้นจะต้องมีการแถลงข่าวเพื่อแจ้งระยะเวลาการพักใช้ใบอนุญาตต่อไป
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประสิทธิ์ ยังยืนยันด้วยว่า แพทยสภายึดหลักความถูกต้องและตัดสินใจตามหลักฐานเชิงประจักษ์ “เราไม่ได้ถูกแทรกแซงจากปัจจัยภายนอก เราไม่สนใจด้วยซ้ำว่าผู้ป่วยคือใคร ไม่อย่างนั้นเราจะมีปัญหา จากข้อมูลที่มีอยู่ เราได้วินิจฉัยสรุปตามพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม มติของเรายังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด และคำสั่งยังไม่สามารถออกได้จนกว่ารัฐมนตรีจะให้ความเห็นชอบ”
เมื่อถูกถามว่า สามารถสรุปได้หรือไม่ว่า นายทักษิณ ไม่ได้ป่วยจริงตามที่เป็นข่าว ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์ประสิทธิ์ ตอบสั้นๆ ว่า “ผมคิดว่าเราไม่ควรไปคิดแบบนั้น แพทยสภามีศักดิ์ศรี แพทย์ทุกคนมีศักดิ์ศรี มีเกียรติในวิชาชีพ ที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องและเป็นธรรมต่อสังคม”
การเข้าพักรักษาตัวของนายทักษิณ ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองอย่างมาก โดยกลุ่มต่อต้านนายทักษิณเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างโปร่งใส และมีการโจมตีนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ว่าอาจมีส่วนรู้เห็น แม้ว่าขณะนั้นเธอจะยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ตาม
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามนายกรัฐมนตรีถึงกรณีนี้สองวันก่อนที่แพทยสภาจะมีมติ เธอกล่าวว่า ในช่วงที่บิดาของเธอเข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เธอก็รับรู้เรื่องราวทั้งหมดอยู่แล้ว แต่ดังที่เคยกล่าวไว้ในการอภิปรายในสภาว่า “ถ้าดิฉันพูดไป พวกท่านจะเชื่อไหมคะ ถ้าดิฉันพูดออกไป พวกท่านจะเชื่อดิฉันหรือไม่” เมื่อผู้สื่อข่าวย้ำถามว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบอย่างหนักแน่นว่า “ป่วยจริง และมีการผ่าตัดจริง”
นายกรัฐมนตรีได้ตอบโต้ข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านอย่างหนักแน่นในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือนมีนาคม เกี่ยวกับการที่บิดาพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานถึง 180 วัน แทนที่จะอยู่ในเรือนจำ โดยสมาชิกฝ่ายค้านกล่าวหาว่านี่คือการให้สิทธิพิเศษที่เกิดจาก “ดีลลับ” ในช่วงที่พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลผสมกับกลุ่มของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ในขณะเดียวกัน ผู้สนับสนุนนายทักษิณแย้งว่า เขาไม่ควรต้องถูกตั้งข้อหาเหล่านี้ตั้งแต่แรก เนื่องจากกระบวนการทางกฎหมายทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากที่เขาถูกรัฐประหาร