กรุงเทพฯ – ความคืบหน้ากรณีเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ พังถล่มลงมา ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ที่กองอำนวยการร่วม สน.บางซื่อ ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ ได้มีการประชุมวางแผนการดำเนินงานเก็บหลักฐานในจุดรากฐานอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ ที่แตกหัก บริเวณชั้นใต้ดินอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สอง

การประชุมครั้งนี้ประกอบด้วยทีมพนักงานสอบสวน บก.น.2, ทีมสอบสวนคดีพิเศษ, ทีมวิศวกรกรมโยธาธิการและผังเมือง, ทีมพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ร่วมกับ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ และคณะผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้าง โดยในวันนี้ได้อนุญาตให้ตัวแทน บริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทร่วมออกแบบก่อสร้างอาคาร เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

มีรายงานเพิ่มเติมจากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงว่า ทีมผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านโครงสร้างและวัสดุศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ให้ความสนใจเป็นพิเศษกับคลิปวิดีโอไลฟ์สดขณะเกิดเหตุของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เนื่องจากมีภาพชิ้นส่วนซากอาคารที่ยังสมบูรณ์อยู่หลายชิ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการนำไปศึกษาคำนวณประกอบการตรวจสอบตัวอย่างชิ้นส่วนหลักฐานทางวิศวกรรม เพื่อสร้างแบบจำลองเหตุการณ์การถล่มให้มีความแม่นยำและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงมากที่สุด

ในส่วนของการค้นหาผู้สูญหาย เวลา 10.20 น. นายสุริยชัย ระวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (ผอ.สปภ.กทม.) เปิดเผยความคืบหน้าว่า บริเวณโซน D ได้เปิดพื้นที่ไปแล้ว 1.50 เมตร แต่ยังไม่พบร่างผู้ประสบภัย เช่นเดียวกับโซน A บริเวณด้านหน้าอาคารที่เปิดพื้นที่แล้วก็ไม่พบร่างผู้ประสบภัย

อุปสรรคสำคัญอยู่ที่บริเวณโซน B และภายในตัวอาคาร ซึ่งยังไม่สามารถขุดลึกลงไปถึงชั้นล่างสุดได้ เนื่องจากพื้นที่จำกัดและมีเสาที่ทรุดตัว ทำให้การนำเครื่องจักรหนักเข้าไปอาจเกิดความไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้นำสุนัข K9 และเจ้าหน้าที่กู้ภัยลงพื้นที่เดินเท้าเข้าไปค้นหาในโซน B ซึ่งเป็นโซนที่อยู่ภายนอกตัวอาคารที่พังถล่ม และมีสัญญาณบ่งชี้ความเป็นไปได้ที่จะมีร่างผู้ประสบภัยติดค้างอยู่

ผอ.สปภ.กทม. กล่าวต่อว่า ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบร่างผู้ประสบภัยเพิ่มเติม พบเพียงชิ้นส่วน 1 ชิ้นเมื่อวาน และอีก 1 ชิ้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

สำหรับแผนการดำเนินงานต่อจากนี้ จะควบคู่ไปกับการเคลียร์พื้นที่บริเวณปล่องลิฟต์ทั้ง 6 จุด ซึ่งแต่ละจุดมีความลึกมากกว่าระดับชั้นใต้ดินลงไปประมาณ 3 เมตร โดยเจ้าหน้าที่จะคงสภาพปล่องลิฟต์ไว้เพื่อประโยชน์ในการสืบสวน แต่จะขนย้ายเศษปูน เหล็ก หรือวัสดุก่อสร้างที่ติดค้างออกทั้งหมด เพื่อค้นหาผู้ติดค้างที่อาจตกลงไปในปล่องขณะเกิดเหตุ

ข้อมูลล่าสุด ผู้ที่อยู่ระหว่างการติดตามค้นหามีจำนวน 8 ราย จากเดิม 11 ราย เนื่องจากมี 3 ราย ยืนยันแล้วว่าอยู่บ้านไม่ได้มาทำงานในวันเกิดเหตุ ทำให้ตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมดคือ 106 ราย (จากเดิม 109 ราย) โดยแบ่งเป็นเสียชีวิต 89 ราย บาดเจ็บ 9 ราย และอยู่ระหว่างติดตามค้นหา 8 ราย

ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ยืนยันว่า การประเมินความคืบหน้าเบื้องต้นยังอยู่ในกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้ คาดว่าจะสามารถจบภารกิจค้นหาและส่งคืนพื้นที่ได้ภายในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ ผู้อำนวยการเขตจตุจักร จะเป็นผู้ประกาศยกเลิกพื้นที่สาธารณภัยในบริเวณโครงการก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ และจะเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุและดำเนินคดีต่อไปโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน