ททท. เปิดแผนกระตุ้นเที่ยวไทย ดึง 55 เมืองน่าเที่ยว จัดหนัก 10 แคมเปญ หวังโกย 222 ล้านคนปี 69
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้ากระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในประเทศครั้งใหญ่ เปิดโครงการไฮไลต์ “Year Celebration” อัดแน่น 10 แคมเปญ ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน 2568 มุ่งเป้า 55 เมืองน่าเที่ยว หวังสร้างแรงจูงใจนักท่องเที่ยวไทย พร้อมวางแผนแม่บท “TATAP 2026” สำหรับปี 2569 ตั้งเป้าคนไทยเที่ยวในประเทศ 222 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มรายได้สู่ทุกภูมิภาคอย่างยั่งยืน
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เพื่อกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ททท. ได้วางแผนกิจกรรมสำคัญสำหรับช่วงเดือนพฤษภาคม – กันยายน 2568 ด้วยโครงการ “Year Celebration” โดยมีเป้าหมายหลักคือการส่งเสริมการขายเสน่ห์ไทยใน “55 เมืองน่าเที่ยว” ทั่วประเทศ ตั้งเป้าหมายการขายแพ็กเกจท่องเที่ยวให้ได้ถึง 250,000 แพ็กเกจ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และผู้ประกอบการกิจกรรมต่างๆ ทั่วประเทศ.
แคมเปญภายใต้โครงการ “Year Celebration” จะเน้นกลยุทธ์ “ลดแลกแจกแถม” เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางเข้าสู่พื้นที่ โดยมีทั้งหมด 10 แคมเปญเด่น ที่จะทยอยเปิดตัวตลอด 5 เดือน ได้แก่:
- แคมเปญที่ 1 Get Wet Getaway: เที่ยวจังหวัดริมแม่น้ำ น้ำตก ในช่วง Green Season พร้อมกิจกรรมหลากหลาย เช่น พายคายัค ออนเซ็นริมน้ำ เจาะกลุ่ม Niche Market
- แคมเปญที่ 2 เที่ยวนี้มีหมูกะทะ: ดึงกระแสเมนูยอดนิยมเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในเมือง
- แคมเปญที่ 3 แซ่บซ่าส์ท้าเที่ยว: กิจกรรมสนุกสนานเหมาะกับตลาดผู้สูงวัย
- แคมเปญที่ 4 ลั่ลล๊ากับม่ามี๊: กิจกรรมพิเศษเดือนสิงหาคม ชวนคุณแม่เที่ยว พร้อมส่วนลดจากพันธมิตร
- แคมเปญที่ 5 ชีเสิร์ฟไม่พัก: แนะนำจุดเช็คอินถ่ายรูปสวย สร้างคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย
- แคมเปญที่ 6 Love Out Land: คัดเลือกสถานที่สำหรับถ่ายพรีเวดดิ้ง จัดงานแต่งงาน หรือฮันนีมูนในบรรยากาศกลางแจ้ง
- แคมเปญที่ 7 Burn Out Break: พักผ่อนกายใจ ค้นหากิจกรรมเผาผลาญพลังงาน
- แคมเปญที่ 8 ดิจิทัล ดีท็อกซ์ /Digital Detox: การพักผ่อนแบบเงียบสงบ หลีกหนีความวุ่นวายจากโลกดิจิทัล
- แคมเปญที่ 9 Alone but NOT Lonely: เที่ยวคนเดียวได้อย่างสนุกสนาน ไม่โดดเดี่ยว
- แคมเปญที่ 10 บูส เอนเนอร์จี้ ทริปนี้ไม่มีอ่อม: ปล่อยพลังเต็มที่กับกิจกรรมเชิงผจญภัย
สำหรับแผนงานใหญ่ปี 2569 ททท. ได้จัดประชุม “แผนแม่บทการตลาดท่องเที่ยวปี 2569 : Tourism Authority of Thailand Action Plan : TATAP 2026” โดยตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางในประเทศไว้ที่ 222 ล้านคน-ครั้ง ซึ่ง ททท. ทั้ง 5 ภูมิภาค จะเน้นยกระดับประสบการณ์ท่องเที่ยวด้วยแนวคิด “5 Must Do in Thailand” ได้แก่:
- MUST TASTE: อาหารการกินและรสชาติท้องถิ่น
- MUST TRY: กิจกรรมที่ต้องได้ลงมือทำเมื่อไปถึง
- MUST BUY: สินค้าอัตลักษณ์ชุมชน
- MUST SEEK: วิวสวย จุดเช็คอินยอดนิยม
- MUST SEE: วิถีชีวิตและไลฟ์สไตล์ท้องถิ่น
ปี 2569 ททท. จะขับเคลื่อนตลาดในประเทศโดยมุ่งเน้น “เพิ่มค่าใช้จ่ายต่อทริป” ของนักท่องเที่ยว ด้วยการขยายวันพักเฉลี่ย ผนวกกับการนำเสนอสินค้าท่องเที่ยวคุณภาพ และส่งเสริมให้เกิดความถี่ในการเดินทางมากขึ้นตลอดทั้งปี พร้อมกันนี้ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน โดยจะคัดเลือกและส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards (TTA) รวมถึงที่พักที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน Carbon Footprint Hotels (CF-Hotels) เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบและเลือกใช้บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้.
การดำเนินงานในปี 2569 จะมีการกระจายพื้นที่และช่วงเวลาท่องเที่ยวให้เหมาะสม จัดหาสินค้าท่องเที่ยวตามฤดูกาลที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถเที่ยวได้ทุกวันตลอดปี ปัจจุบัน ททท. 5 ภูมิภาค ได้เริ่มนำเสนอแผนการตลาดของตนเอง โดยจะมีการสรุปแผนอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งจะยึดโยงกับจุดขาย 5 Must Do และมีธีมหลักที่โดดเด่นของแต่ละภูมิภาค:
- ภาคเหนือ: ธีม “เที่ยวเหนือได้ทุกฤดู : Season of North” ชูความโดดเด่นเมืองหนาว เหมาะสำหรับวัยทำงานที่ต้องการรางวัลชีวิต
- ภาคตะวันออก: ธีม “สีสันตะวันออก” เน้น 3 คอนเซ็ปต์หลัก คือ สีสันสวรรค์นักกิน (อาหารทะเล, ผลไม้, คาเฟ่), สีสันสวรรค์นักกีฬา (กิจกรรมกลางแจ้ง), และสีสันสวรรค์ทะเลตะวันออก (หาดทราย, เกาะ, ที่พัก Sea View, Wellness, หัตถกรรม, พลอย)
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ธีม “ประเพณีศรีอีสาน วิถีแห่งศรัทธา” นำทุนวัฒนธรรมและความเชื่อมาผนวก เช่น วัดสวยงาม องค์พญานาค ประเพณี และเทศกาลดนตรีพื้นบ้าน
- ภาคใต้: ธีม “Go South เสน่ห์ใต้ หลากหลายวัฒนธรรม” เน้นแหล่งศิลปะวัฒนธรรม ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย (Eco Adventure) สำหรับ Gen Y, การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและวิถีชีวิต, Health & Wellness, และการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (กอล์ฟ)
- ภาคกลาง: ธีม “เที่ยวกลาง เที่ยวใกล้ เที่ยวได้เลย” เน้นการเดินทางสะดวก ใช้เวลาสั้นๆ มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น พายซับบอร์ด ดนตรี แฟชั่น ผจญภัย และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม.
นายอภิชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายการเพิ่มรายได้จากฐานปี 2568 ที่ประมาณ 1.17 ล้านล้านบาท ให้เพิ่มขึ้นอีก 10% ในปี 2569 เป็นความท้าทายที่สำคัญ ททท. จะใช้ 2 กลยุทธ์หลัก คือ 1. ร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมเพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการได้ขายสินค้าท่องเที่ยว และ 2. คัดเลือกสินค้าท่องเที่ยวที่เจาะกลุ่มกำลังซื้อคุณภาพสูง เช่น การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health & Wellness) ซึ่งไทยมีศักยภาพสูง.
ททท. ตลาดในประเทศพร้อมแล้วที่จะปลุกกระแส “สุขทันที ที่เที่ยวไทย” ผ่านการนำเสนอเสน่ห์วิถีถิ่น ซอฟต์พาวเวอร์ และอัตลักษณ์แต่ละพื้นที่ในโครงการและแคมเปญต่างๆ เพื่อกระจายรายได้จากเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยวอย่างเท่าเทียมและยั่งยืนต่อไป.
เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen