สมุทรสงคราม – วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ร.ต.อ.คมสันต์ พรหมศิริ รอง สว.สอบสวน สภ.อัมพวา ได้รับแจ้งเหตุพระสงฆ์มรณภาพภายในวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม จึงรุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นพ.สิทธิโชค จิติวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอัมพวา และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสรรพราเชนทร์(สมุทรสงคราม)

จุดที่พบการมรณภาพอยู่ภายในกุฏิซึ่งกั้นพื้นที่ใต้อุโบสถ พบสรีระของ พระบุญมั่น อายุ 70 ปี พระลูกวัด โดยมีลักษณะการมรณภาพที่ผิดปกติอย่างชัดเจน คือ มีถุงดำสวมคลุมที่บริเวณศีรษะ และรัดด้วยสายสิญจน์ พร้อมทั้งมีหมอนวางทับอยู่บนใบหน้า ลักษณะดังกล่าวสร้างความกังขาให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก เบื้องต้นได้มีการรายงานเหตุการณ์ให้ พ.ต.อ.พิชญตม์ โกสุม ผู้กำกับการ สภ.อัมพวา ทราบ และได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมทั้งเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ

ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการนำสรีระของพระบุญมั่นออกจากกุฏิ พี่สาวของพระบุญมั่นได้เดินทางมาถึงวัดและมีอาการโศกเศร้าเสียใจอย่างมาก ได้โผเข้ากอดร่างไร้วิญญาณของน้องชาย พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดว่า “เดี๋ยวไปรับกลับมานะ กลับบ้านกัน” เช่นเดียวกับลูกสาวของพระบุญมั่นที่ร่ำไห้และเข้ากอดบริเวณปลายเท้าของบิดา

พี่สาวของพระบุญมั่นได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า พระบุญมั่นบวชมาแล้วกว่า 20 ปี ที่ผ่านมาท่านมีอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและเคยมีอาการสโตรกส่งผลให้แขนซีกซ้ายอ่อนแรง แต่ทางครอบครัวได้ดูแลพาไปรักษาจนอาการดีขึ้นและได้กลับมาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้เมื่อช่วงต้นปี 2568 เนื่องจากอาการป่วยจึงขออนุญาตทางวัดติดตั้งเครื่องปรับอากาศภายในกุฏิที่อยู่ใต้โบสถ์เพื่อความสะดวกสบายในการพักผ่อน

พี่สาวยืนยันว่าไม่เชื่อว่าพระบุญมั่นจะก่อเหตุสลดด้วยตัวเองจากปัญหาสุขภาพ เพราะหากเป็นเช่นนั้นคงทำไปตั้งแต่อาการป่วยหนักแล้ว แต่อาการของท่านได้หายดีแล้ว สิ่งที่ตนเองติดใจและคาดว่าเป็นสาเหตุของความเครียดอีกอย่างหนึ่ง คือ การที่น้องชายถูกกลั่นแกล้งมาโดยตลอดตั้งแต่กลับมาอยู่ที่วัด

พี่สาวเล่าถึงเหตุการณ์กลั่นแกล้งว่า ตั้งแต่ติดเครื่องปรับอากาศ ก็มีพระสงฆ์รูปหนึ่งไปพูดกับญาติโยมว่า พระวัดนี้รวยมีเงินติดแอร์ ไม่ต้องมาทำบุญกับท่าน ต่อมาในช่วงปลายเดือนเมษายน 2568 น้องชายก็ถูกแกล้งอีกครั้ง โดยมีคนนำไม้ไปเสียบที่คอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศจนทำให้แอร์เสีย ตนเองต้องออกเงินซ่อมแซมให้ ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้น้องชายมีความกังวลอย่างมากถึงกับบ่นกับตนว่า “เขาจะมาแกล้งอีกไหม” พี่สาวกล่าวด้วยความอัดอั้นว่า อยากรู้เหตุผลว่าทำไมพระต้องมาแกล้งกันด้วย และหากพระรูปดังกล่าวสำนึกผิด ขอให้มาแสดงความเคารพศพน้องชายด้วย

จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ภายในกุฏิ และทรัพย์สินภายในห้องก็ยังอยู่ครบถ้วน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งสรีระของพระบุญมั่นไปชันสูตรอย่างละเอียดที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลราชบุรี เพื่อค้นหาสาเหตุการมรณภาพที่แท้จริง และนำผลมาประกอบสำนวนการสอบสวนเพื่อสรุปเหตุการณ์

พ.ต.อ.พิชญตม์ โกสุม ผู้กำกับการ สภ.อัมพวา กล่าวว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือร่องรอยว่ามีบุคคลอื่นบุกรุกเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ ประกอบกับพระบุญมั่นมีประวัติการป่วยมาก่อน ในเบื้องต้นจึงสันนิษฐานว่า อาจจะเป็นการมรณภาพด้วยเหตุการณ์สลดใจส่วนตัว แต่ท่านก็ยังไม่ตัดประเด็นการฆาตกรรมทิ้งไปเสียทีเดียว เนื่องจากสภาพที่พบนั้นมีความผิดปกติและน่าสงสัยอย่างยิ่ง

ผู้กำกับ สภ.อัมพวา กล่าวต่อว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามารวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุทั้งหมด เพื่อนำมาตอบข้อสงสัยที่เกิดขึ้นในสังคม และไขความกระจ่างว่าพระบุญมั่นมรณภาพด้วยสาเหตุใดกันแน่ โดยจะนำผลการชันสูตรและพยานหลักฐานทั้งหมดมาประกอบสำนวนเพื่อสรุปสาเหตุการมรณภาพที่แท้จริงต่อไป