มท. เปิดปฏิบัติการ “ZERO GUN” ทลายเครือข่ายค้าปืนเถื่อนออนไลน์ รวบผู้ต้องหา ชี้ลูกค้าหลักกลุ่มเด็กช่าง หวั่นนำไปก่อเหตุวุ่นวาย

กรุงเทพมหานคร – เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการพิเศษ “ZERO GUN” เข้ากวาดล้างแหล่งค้าอาวุธปืนเถื่อนผิดกฎหมายผ่านช่องทางออนไลน์ หลังพบข้อมูลว่ามีการลักลอบจำหน่ายและส่งถึงมือลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษาอาชีวะหรือเด็กช่าง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ มอบหมายให้อธิบดีกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ นำชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง พร้อมด้วยกองอาสารักษาดินแดน ดำเนินการสืบสวนและขอหมายค้น-หมายจับจากศาลอาญาพระโขนง เพื่อเข้าจับกุมผู้ต้องหาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

การปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายณัฐเกียรติ หรือนิว อายุ 29 ปี และนายศุภฤกษ์ อายุ 31 ปี ได้ภายในแมนชั่นแห่งหนึ่งย่านสวนหลวง กรุงเทพมหานคร พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นอาวุธปืนดัดแปลง เครื่องกระสุน และส่วนประกอบอาวุธปืนจำนวนมาก ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมจัดส่งให้ลูกค้า

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า การเข้าทลายเครือข่ายค้าปืนเถื่อนครั้งนี้ สืบเนื่องจากกรมการปกครองได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมการโพสต์ภาพและคลิปอาวุธปืน การรับซื้อ จำหน่าย และการพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตผ่านสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก ซึ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับคนในชุมชน จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนเชิงลึก

จากการสืบสวนติดตามพบว่า นายณัฐเกียรติ หรือบังนิว มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เคยต้องโทษคดีจำหน่ายยาเสพติดและเพิ่งพ้นโทษในปี 2562 ปัจจุบันมีอาชีพขายเสื้อผ้า รองเท้า และนาฬิกาวินเทจผ่านเฟซบุ๊ก แต่แฝงการค้าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนขนาดต่างๆ ทั้งปืนไทยประดิษฐ์และปืนแบลงค์กันดัดแปลง ในราคาตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่นบาท โดยมีพฤติกรรมแบบครบวงจร คือ ทั้งรับซื้อ ดัดแปลง และจำหน่าย

นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า การสืบสวนยังพบว่า นายณัฐเกียรติ ได้จำหน่ายปืนเถื่อนผ่านช่องทางออนไลน์มานานเกือบปี โดยมีวิธีการนำส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชน ซึ่งปืนเถื่อนเหล่านี้เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มลูกค้าเด็กช่าง นักเรียนอาชีวะ-ช่างกลในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งปัญหาอาวุธปืนเถื่อนในกลุ่มนักเรียนช่างกลนี้ อาจเป็นต้นเหตุสำคัญที่นำไปสู่การก่อเหตุทะเลาะวิวาท การยิงคู่อริ หรือแม้กระทั่งการยิงถูกผู้บริสุทธิ์จนเสียชีวิต ตามที่ปรากฏเป็นข่าวหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้ทำการล่อซื้ออาวุธปืนแปลงจากผู้ต้องหาผ่านเฟซบุ๊ก และเมื่อตรวจสอบยืนยันว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายจริง จึงนำมาสู่การขออนุมัติหมายจับและหมายค้นเข้าทำการจับกุมและตรวจยึดของกลางในครั้งนี้

เบื้องต้น พนักงานฝ่ายปกครองได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายณัฐเกียรติ ในฐานความผิด “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือ จำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต”

สำหรับนายศุภฤกษ์ ผู้ต้องหาอีกราย ซึ่งเป็นเพื่อนของนายณัฐเกียรติ จากการตรวจค้นห้องพักพบชิ้นส่วนและอุปกรณ์อาวุธปืนบางส่วน เจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนขยายผลต่อไปว่ามีส่วนร่วมในการกระทำผิดนี้หรือไม่

อธิบดีกรมการปกครอง ย้ำว่า ปฏิบัติการนี้เป็นไปตามนโยบายปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเน้นย้ำให้จัดการปัญหาอาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่ใช้สื่อออนไลน์เป็นช่องทาง กรมการปกครองยืนยันจะเดินหน้าปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หากมีเบาะแสสามารถแจ้งได้ที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ ปลัดอำเภอ หรือศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย สายด่วน 1567

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *