จากกรณีสุดสลด นาย "ขวัญ" ตัดสินใจจบชีวิตลงภายในรถยนต์ ซึ่งได้ทิ้งข้อความไว้เกี่ยวกับปัญหาชีวิตที่พัวพันกับอดีตแฟนหนุ่ม ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวางถึงสาเหตุและปมขัดแย้ง

หลังการเสียชีวิตของนายขวัญ อดีตแฟนหนุ่มคือ "พระโย" ได้เข้าพิธีอุปสมบททันที ซึ่งต่อมา พระโย ได้ออกมาชี้แจงท่ามกลางกระแสโจมตีจากสังคม โดยกล่าวถึงกรณีที่นายขวัญถูกกล่าวหาว่านำเงินกว่า 20 ล้านบาท มาร่วมลงทุนทำสวนเฟิร์น ขยายร้านกาแฟ และธุรกิจอื่นๆ บนที่ดินของพระโย ก่อนจะถูกให้ออกจากที่ดินดังกล่าว

พระโย ชี้แจงผ่านสื่อว่า ไร่ทรัพย์ประยูร ในจังหวัดลพบุรีนั้น ตนเองเป็นผู้ลงทุนหลัก นำเงินมาสร้างกว่า 15 ล้านบาท ส่วนนายขวัญ อดีตแฟนหนุ่มที่เสียชีวิตไปนั้น ลงทุนไปไม่เกิน 4 ล้านบาท ยืนยันว่าไม่ถึง 20 ล้านบาทตามที่มีกระแสข่าวแต่อย่างใด

ในประเด็นการให้อดีตคนรักออกจากไร่นี้ พระโย ชี้แจงว่าไม่ได้เป็นการไล่ออก แต่เป็นเพราะจับได้ว่ามีการนอกใจ และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมขณะให้บริการลูกค้า จึงตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ พร้อมกันนี้ พระโย ได้วิงวอนขอความเข้าใจจากสังคม ระบุว่าการจากไปของนายขวัญกำลังสร้างตราบาปให้กับตนเอง และยืนยันหนักแน่นว่าการออกบวชและการแถลงข่าวในวันนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นการล้างบาปแต่อย่างใด เป็นการบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิต

ขณะเดียวกัน ที่งานศพของนายขวัญ รายการลุยชนข่าว ช่อง 8 ได้เข้าสัมภาษณ์ญาติๆ ของนายขวัญ โดยเฉพาะพี่ชายของขวัญ ซึ่งได้นำหลักฐานเป็นสลิปโอนเงินยืนยันว่า ตนเองได้โอนเงินให้น้องชายคือคุณขวัญถึง 8 ล้านบาท ไม่ใช่ 4 ล้านตามที่กล่าวอ้าง และยังเคยให้เงินสดน้องอีกครั้งละ 1 ล้านบาท รวม 3-4 ครั้ง ซึ่งเงินเหล่านี้น่าจะถูกนำไปลงทุนที่ไร่ของพระโย นอกจากนี้ พี่ชายยังมีหลักฐานเป็นลายมือของนายขวัญที่ระบุว่านำเงินไปลงทุนทำโรงเพาะเห็ด พร้อมรูปภาพประกอบอีกจำนวนมาก ซึ่งสวนทางกับการชี้แจงของพระโยอย่างสิ้นเชิง

ด้าน พ่อของพระโย ได้ให้สัมภาษณ์ในมุมของตนเอง โดยกล่าวว่า นายขวัญเข้ามาอยู่ที่นี่ตอนแรกคือมาแต่ตัวเปล่า และธุรกิจร้านในปัจจุบันก็ประสบปัญหาหนี้สินจำนวนมาก ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงเกือบแสนบาทต่อเดือน โดยมีเงินต้นและดอกเบี้ยรวมกันก็กว่า 11 ล้านบาทแล้ว พ่อพระโยกล่าวว่า ข่าวที่ออกไปทำให้ไร่ของตนถูกโจมตีอย่างหนักจากสังคม ซึ่งมองว่าลูกชายไปเอาเปรียบนายขวัญ ทั้งที่ความจริงแล้วลูกชายไม่เคยเอาเปรียบใคร และลูกชายก็บวชให้กับผู้ตาย ไม่ใช่หนีปัญหา

พ่อพระโยยังกล่าวถึงแผนการในอนาคตว่า หลังพระโยลาสิกขา ลูกชายก็จะกลับมาเปิดร้านตามปกติ เมื่อผู้สื่อข่าวถามคุณพ่อถึงประเด็นที่พี่ชายคุณขวัญไม่ต้องการให้ตนเองและครอบครัวไปร่วมงานศพ คุณพ่อของพระโยก็ตอบอย่างชัดเจนว่า คงไม่ไปร่วมงานศพแน่นอน และถึงขั้นระบุว่า "ตายก็ไม่เผา" เพราะก่อนเสียชีวิต นายขวัญได้สาปแช่งตนเองและครอบครัวไว้มากมาย คำพูดนี้ยิ่งสะท้อนถึงความบาดหมางอย่างรุนแรงและความสัมพันธ์ที่ขาดสะบั้นลงระหว่างสองครอบครัวจากปมปัญหาที่เกิดขึ้น