ภูมิธรรม ยัน คดีฮั้ว สว. คือเรื่องผิดกฎหมาย ไม่ใช่สงครามสี ชี้แจงศาล รธน. แล้ว ย้ำทำตามอำนาจหน้าที่
ทำเนียบรัฐบาล – เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงประเด็นร้อนทางการเมือง ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยชี้แจงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าคดีการฮั้วในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นเสมือนสงครามตัวแทนระหว่างฝ่ายสีแดงและสีน้ำเงิน
นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ตนไม่ได้มองประเด็นนี้ในแง่ของสีทางการเมือง แต่พิจารณาจากความถูกหรือผิดตามข้อเท็จจริง พร้อมระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย และเรื่องนี้จะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในชั้นศาลต่อไป
“ไม่ได้คำนึงถึงแดงหรือน้ำเงิน เวลาเราพิจารณาปัญหา คือพิจารณาว่าถูกหรือผิด และเจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ไปสู้ในกระบวนการยุติธรรม และศาลอีก ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่ควรมีอะไรไปขัดขวาง หรือทำให้กระทบกระเทือน แต่ต้องใช้อำนาจโดยชอบ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีอำนาจ และเขาทำงานของเขาอยู่” นายภูมิธรรม กล่าว
รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายสีใดสีหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของผู้ที่กระทำผิดกฎหมายกับเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการตามกฎหมาย โดยสุดท้ายผลจะออกมาอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย หากมีหลักฐานชัดเจนก็ดำเนินการตามนั้น แต่หากหลักฐานยังไม่เพียงพอ ก็เป็นอำนาจของศาลที่จะพิจารณา
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้องจากสมาชิกวุฒิสภาให้พิจารณาความเป็นรัฐมนตรีของตนเอง และศาลได้สั่งให้ส่งคำชี้แจง โดยเปิดเผยว่า ตนได้ส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยืนยันตามข้อเท็จจริงและการกระทำที่ผ่านมา
นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า ตนได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (กพค.) ซึ่งในระหว่างการประชุมได้มีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น จึงได้มีการทบทวนและรับข้อโต้แย้งมาพิจารณา โดยให้ข้อเสนอแนะว่า หากคดีเรื่องฮั้ว สว. มีการซ้อนทับกัน ก็ควรจะแยกคดีเพื่อให้ต่างคนต่างทำ จากนั้นได้เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมาย ยืนยันว่าตนได้ปฏิบัติในส่วนที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของตนเอง
เมื่อถูกถามถึงความคืบหน้าของกระบวนการในศาลรัฐธรรมนูญว่าถึงขั้นไหนแล้ว และมีการเรียกไต่สวนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการเรียกไต่สวน ศาลอยู่ระหว่างการพิจารณา หากศาลพิจารณาแล้วจะตัดสินใจอย่างไรก็เป็นไปตามนั้น แต่ยืนยันว่าหากศาลจะเรียกไปไต่สวน ตนก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลและชี้แจง
“ยืนยันว่าผมมีความบริสุทธิ์ใจ และปฏิบัติหน้าที่ตามที่มีอำนาจหน้าที่ และผมไม่เชื่อว่ากระบวนการที่ผมดำเนินการไป จะเป็นปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าคิดว่าเนื้อหาที่ผมทำไป มีปัญหา ศาลก็คงวินิจฉัยและพิจารณา” นายภูมิธรรม กล่าวย้ำ
ส่วนการที่ถูกยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบตนเองและบอร์ด กพค. นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่มีการเชิญไปชี้แจง แต่หากมีข้อสงสัยในทางกฎหมาย และมีการเรียกให้ไปชี้แจง ตนก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือและเข้าชี้แจง