กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนประชาชนทั่วประเทศรับมือสภาพอากาศแปรปรวน โดยเฉพาะวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 คาดมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงครอบคลุมกว่า 40 จังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตกยังมีฝนตกหนักร้อยละ 60 ของพื้นที่ ที่น่าจับตาคือช่วงวันที่ 9-12 พฤษภาคมนี้ ประเทศไทยตอนบนเตรียมเผชิญพายุฤดูร้อน อาจมีลูกเห็บตกและฟ้าผ่าร่วมด้วย

ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาประจำวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าระบุว่า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ โดยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ

ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง รวมถึงดูแลรักษาสุขภาพจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นผลมาจากอิทธิพลของลมใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน

สำหรับภาคใต้ แม้ปริมาณฝนจะลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ต้องเฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนสะสม ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

สภาพคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันคาดว่ามีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และสูงมากกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ชาวเรือบริเวณดังกล่าวควรเพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในพื้นที่ที่มีฝนฟ้าคะนอง

จับตา! พายุฤดูร้อน 9-12 พฤษภาคมนี้

กรมอุตุนิยมวิทยาเน้นย้ำว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 9-12 พฤษภาคม 2568 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ลักษณะของพายุจะมาพร้อมกับฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงมีโอกาสเกิดฟ้าผ่าในบางพื้นที่

พายุฤดูร้อนนี้คาดว่าจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน จากนั้นจึงจะส่งผลกระทบต่อภาคอื่นๆ ในระยะถัดไป สาเหตุหลักมาจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนที่จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด

ขณะที่ภาคใต้ในช่วงเวลาเดียวกัน (9-12 พ.ค.) จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น

สภาพอากาศและการสะสมฝุ่นละออง

สำหรับการสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน ในระยะนี้ยังคงอยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง เนื่องจากยังคงมีฝนตกในบางพื้นที่ช่วยลดการสะสมของฝุ่นละอองได้

พยากรณ์อากาศรายภาค (ตั้งแต่ 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้)

• ภาคเหนือ: อากาศร้อนถึงร้อนจัด มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากที่เชียงใหม่ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิสูงสุด 37-40°C
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: อากาศร้อน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากที่เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น มุกดาหาร นครราชสีมา และบุรีรัมย์ อุณหภูมิสูงสุด 34-38°C
• ภาคกลาง: อากาศร้อน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง ส่วนมากที่นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิสูงสุด 36-38°C
• ภาคตะวันออก: อากาศร้อน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากที่นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิสูงสุด 33-37°C คลื่นสูง 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
• ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก): มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากที่ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และพัทลุง อุณหภูมิสูงสุด 34-36°C คลื่นสูง 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
• ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก): มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ที่ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิสูงสุด 29-33°C คลื่นสูง 1 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
• กรุงเทพและปริมณฑล: อากาศร้อน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 34-36°C

ประชาชนควรติดตามข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน