รมช.กลาโหม ลงพื้นที่นราธิวาส ย้ำรัฐบาลห่วงใย พร้อมปรับแผนความมั่นคง สร้างเชื่อมั่นประชาชนชายแดนใต้
นราธิวาส, 7 พฤษภาคม 2568 – พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อพบปะให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ภายหลังสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ โดยท่านได้กล่าวเน้นย้ำถึงความห่วงใยของรัฐบาลต่อพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม
พล.อ.ณัฐพล เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้ตนเองลงพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์และรับฟังความคิดเห็น รวมถึงข้อมูลเพิ่มเติมโดยตรงจากทุกฝ่ายในพื้นที่
จากการรับฟังรายงานสถานการณ์จาก พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง พล.อ.ณัฐพล แสดงความรู้สึกคลายความกังวลลงระดับหนึ่ง เนื่องจากหน่วยงานความมั่นคงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการปรับรูปแบบและวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากขึ้น มีความเข้มงวด บูรณาการ และเป็นเอกภาพในการดูแลความเป็นอยู่และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน
ในโอกาสนี้ พล.อ.ณัฐพล ได้เข้ากราบนมัสการ พระธรรมวัชรจริยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 และเจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา ณ วัดประชุมชลธารา และได้พบปะพูดคุยกับพี่น้องชาวไทยพุทธ ณ วัดเขากง อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส โดยพระธรรมวัชรจริยาจารย์ ได้เมตตาให้ข้อแนะนำอันเป็นประโยชน์ เพื่อนำไปเสนอต่อรัฐบาลประกอบการพิจารณาดำเนินการ รวมถึงข้อคิดเห็นในการขับเคลื่อนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในขณะที่พี่น้องชาวไทยพุทธ ได้มีข้อเสนอแนะให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่
ต่อมา พล.อ.ณัฐพล ได้เดินทางไปพูดคุยกับ นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส และผู้นำศาสนา ณ สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวว่า น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” มาเป็นแนวทางการดำเนินงาน ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง และในฐานะผู้นำองค์กรศาสนา พร้อมให้การสนับสนุนการทำงานของภาครัฐในทุกระดับ เพื่อร่วมนำพาสันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน
การลงพื้นที่ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลในการให้ความสำคัญกับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การรับฟังเสียงจากประชาชนและผู้นำศาสนา รวมถึงการยืนยันการปรับปรุงแผนงานด้านความมั่นคง เพื่อให้เกิดความสงบสุขและความเชื่อมั่นในชีวิตประจำวันของประชาชนทุกกลุ่มในพื้นที่.