เศรษฐกิจบีบ! ผู้ปกครองแห่จำนำทอง หาเงินซื้อชุดนักเรียน สู้ค่าใช้จ่ายก่อนเปิดเทอม
ชัยนาท – ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจและสังคมในช่วงใกล้เปิดภาคเรียนที่กำลังจะมาถึงนี้ พบว่า บรรดาผู้ปกครองจำนวนมากกำลังเร่งหาเงินสำหรับเตรียมความพร้อมให้บุตรหลาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาชุดนักเรียนใหม่ รองเท้า กระเป๋า ถุงเท้า รวมถึงค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนไม่น้อยต้องนำทรัพย์สินมีค่าออกมาหมุนเว้นเป็นเงินสดล่วงหน้า
โดยเฉพาะที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชัยนาท พบว่ามีประชาชนมาใช้บริการหนาแน่นเป็นพิเศษในช่วงนี้ ส่วนใหญ่เป็นการนำทรัพย์สินมาจำนำเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในช่วงใกล้เปิดเทอม
นางนันทิยา พงษ์ทอง ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชัยนาท เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงใกล้เปิดภาคเรียนใหม่ปีนี้ มีประชาชนนำทรัพย์สินมาจำนำเพื่อใช้เป็นค่าซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับบุตรหลานเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่ามีเม็ดเงินหมุนเวียนภายในสถานธนานุบาลฯ ต่อวันไม่ต่ำกว่า 6-10 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของประชาชน ทางสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชัยนาทได้เตรียมสำรองเงินสดไว้ถึง 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง ทางสถานธนานุบาลฯ ได้ออกมาตรการพิเศษโดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับเงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท จากเดิมที่คิดอัตราร้อยละ 0.50 ต่อเดือน เหลือเพียงร้อยละ 0.25 ต่อเดือนเท่านั้น ส่วนเงินต้นที่เกิน 5,000 บาทขึ้นไป ยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยเดิมคือร้อยละ 1 ต่อเดือน โดยมาตรการลดดอกเบี้ยพิเศษนี้จะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568
สำหรับทรัพย์สินที่ประชาชนส่วนใหญ่นิยมนำมาจำนำในช่วงนี้ ได้แก่ ทองรูปพรรณ ซึ่งเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า และของสะสมเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ
ด้าน นางทวี อายุ 74 ปี หนึ่งในผู้ปกครองที่มาใช้บริการ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนนำทองรูปพรรณหนัก 1 บาท ซึ่งเป็นสมบัติของครอบครัวมาจำนำ เพื่อจะนำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายในการซื้อชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ ให้กับหลาน ๆ ที่กำลังจะเปิดเทอม ยอมรับว่าการต้องใช้เงินก้อนจำนวนมากในช่วงนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากลำบาก โดยเฉพาะในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน แต่เมื่อได้เงินมาแล้วก็จะรีบนำไปใช้จ่ายให้ครบ และเมื่อมีเงินเก็บพอเมื่อไหร่ ก็จะรีบมาไถ่ทองคืนในทันที เพราะเป็นทรัพย์สินที่มีค่าและอยากเก็บรักษาไว้
สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงส่งผลต่อกำลังซื้อและการใช้ชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะผู้ปกครองที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการเตรียมความพร้อมด้านการศึกษาให้บุตรหลานในช่วงเวลาที่จำเป็นเช่นนี้