กรุงเทพฯ – วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 กรมศุลกากรแถลงผลการจับกุมยาเสพติดครั้งสำคัญ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสามารถสกัดกั้นและจับกุมชายและหญิงชาวบราซิลที่พยายามลักลอบนำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) เข้ามาในราชอาณาจักรได้สำเร็จ

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหาร การจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล นำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้สั่งการให้กรมศุลกากรซึ่งมีภารกิจในการปกป้องสังคมด้วยระบบควบคุมทางศุลกากร เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติดในทุกช่องทาง

นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ได้กำชับเจ้าหน้าที่ศุลกากรให้ปฏิบัติการเชิงรุกและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยในกรณีนี้ กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม ได้บูรณาการข้อมูลร่วมกับหน่วยสกัดกั้นยาเสพติดทางท่าอากาศยานนานาชาติ (Airport Interdiction Task Force : AITF) ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)

จากการวิเคราะห์ข้อมูลการข่าว เจ้าหน้าที่พบข้อมูลผู้โดยสาร 2 ราย เป็นหญิงชาวบราซิล อายุ 26 ปี และชายชาวบราซิล อายุ 27 ปี ที่มีความเสี่ยงสูงในการลักลอบนำยาเสพติดเข้าประเทศ โดยบุคคลทั้งสองเดินทางมาจากเมืองซัลวาดอร์ สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล แวะเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส และมีปลายทางที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

เมื่อผู้โดยสารทั้งสองเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุมได้เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณสายพานรับกระเป๋า และพบผู้โดยสารทั้งสองที่มีลักษณะตรงตามข้อมูลการข่าว เมื่อผู้โดยสารทั้งสองเข้าสู่ช่องตรวจของศุลกากรในช่องเขียว (ไม่มีสิ่งของต้องสำแดง) เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและขอทำการตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระ

จากการนำกระเป๋าเดินทางทรงอ่อนมีล้อลากทั้ง 2 ใบเข้าเครื่องเอกซเรย์ พบความผิดปกติภายในกระเป๋า เมื่อเปิดตรวจสอบอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่พบห่อพลาสติกใสจำนวนหลายห่อ บรรจุผงสีขาวอยู่ภายใน การตรวจสอบเบื้องต้นด้วยน้ำยาทดสอบ ONCB052 COBALT THIOCYANATE REAGENT ยืนยันว่าวัตถุดังกล่าวคือยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน

โคคาอีนที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้มีน้ำหนักรวม 7,400 กรัม หรือ 7.4 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าประมาณ 22,200,000 บาท

โฆษกกรมศุลกากรกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นความผิดฐานนำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นายพันธ์ทองยังได้กล่าวถึงสถิติการจับกุมยาเสพติดของกรมศุลกากรในปีงบประมาณ 2568 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 จนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ว่า กรมศุลกากรมีการจับกุมยาเสพติดแล้วทั้งสิ้น 140 คดี มีมูลค่ารวมของยาเสพติดที่ตรวจยึดได้สูงถึง 800.67 ล้านบาท สถิติดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความเข้มงวดของกรมศุลกากรในการสกัดกั้นยาเสพติดและปกป้องสังคมไทยให้ปลอดภัยจากภัยยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง