กรุงเทพฯ – นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 1/2568 ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ถึงแนวทางการคำนวณอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่จะเรียกเก็บกับประชาชนสำหรับงวดเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2568

นายพิชัย กล่าวยืนยันว่า หากไม่มีเหตุการณ์สำคัญเข้ามากระทบอย่างมีนัยสำคัญ รัฐบาลมีความมั่นใจว่าอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยสำหรับประชาชนในงวดสุดท้ายของปี 2568 ซึ่งครอบคลุมช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม จะยังคงอยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย

การคงอัตราค่าไฟฟ้าดังกล่าวเป็นไปตามราคาเป้าหมายที่กำหนดไว้ในนโยบายของรัฐบาล เพื่อช่วยดูแลและบรรเทาความเดือดร้อนด้านค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยเน้นย้ำว่าจะไม่มีการใช้งบประมาณแผ่นดินในการดำเนินมาตรการนี้

“รัฐบาลจะยังคงอัตราการค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย ไปจนถึงสิ้นปีนี้” นายพิชัย กล่าวย้ำ พร้อมระบุว่าโอกาสที่ค่าไฟฟ้าจะลดลงกว่านี้หรือไม่นั้น ต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงราคาต้นทุนพลังงานในตลาดโลกอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการคำนวณค่าไฟฟ้าได้

สำหรับประเด็นอื่น ๆ ที่ถูกสอบถามเกี่ยวกับสาเหตุที่ไม่เดินทางไปประชุมประจำปี สภาผู้ว่าการธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ครั้งที่ 58 เพื่อใช้เวทีดังกล่าวในการเจรจาเรื่องกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา นายพิชัย ชี้แจงว่า เป็นคนละหน่วยงานกัน และต้องใช้โอกาสในการหารือกับกระทรวงการคลังเอง

การยืนยันอัตราค่าไฟฟ้าที่ 3.99 บาทต่อหน่วยจนถึงสิ้นปีนี้ ถือเป็นข่าวดีสำหรับประชาชนที่กำลังเผชิญกับภาวะค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน มาตรการนี้แสดงถึงความพยายามของรัฐบาลในการบริหารจัดการราคาพลังงาน เพื่อลดผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชนให้มากที่สุด