ปอศ.-สรรพสามิต บุกทลายเครือข่าย ‘บุหรี่เถื่อนข้ามชาติ’ รายใหญ่ ยึดกว่า 5 หมื่นซอง ค่าปรับสูง 42 ล้านบาท

ปอศ.-สรรพสามิต บุกทลายเครือข่าย ‘บุหรี่เถื่อนข้ามชาติ’ รายใหญ่ ยึดกว่า 5 หมื่นซอง ค่าปรับสูง 42 ล้านบาท

ปทุมธานี – เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำโดย พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผู้บังคับการ บก.ปอศ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รองผู้บังคับการ บก.ปอศ., พ.ต.อ.นฤพนธ์ กรุณา ผู้กำกับการ 2 บก.ปอศ. และนายสุเมธ ฤทธิ์จันทร์ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรมสรรพสามิต ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการค้าบุหรี่เถื่อนข้ามชาติรายใหญ่

การจับกุมครั้งนี้มีผู้ต้องหาเป็นชาวกัมพูชา 2 ราย คือ นางจีวา โชย (Ms. Chiva Chuoy) อายุ 35 ปี และนายนะ เคือน (Mr. Nak Khoeun) อายุ 35 ปี ในความผิดฐาน “ซ่อนเร้น หรือ จำหน่าย ซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร และ มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่มิได้เสียภาษี” พร้อมของกลางบุหรี่เถื่อนยี่ห้อต่างๆ รวมทั้งสิ้น 102 ลัง คิดเป็นจำนวนมากกว่า 50,000 ซอง โดยสามารถจับกุมได้ที่อาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.บึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี

พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลมาจากการจับกุมกลุ่มผู้ค้าบุหรี่เถื่อนรายย่อยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการก่อนหน้านี้ จากการแกะรอยพบว่าบุหรี่เถื่อนส่วนใหญ่จะถูกลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านบริเวณชายแดนภาคใต้และภาคตะวันออก จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลต่อเนื่องจนเชื่อมโยงมาถึงผู้ค้ารายใหญ่ทางภาคตะวันออก ซึ่งเป็นชายชาวกัมพูชาที่มีพฤติการณ์จำหน่ายบุหรี่เถื่อนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และมีโกดังเก็บสินค้าสำหรับพักและแพ็กสินค้าอยู่ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี

เมื่อได้ข้อมูลที่แน่ชัด เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนส่งสายลับเข้าทำการติดต่อล่อซื้อบุหรี่เถื่อนหลายครั้ง โดยแฝงตัวเป็นลูกค้าระดับ VIP ที่ต้องการซื้อสินค้าจำนวนมาก ก่อนจะนัดหมายให้มารับสินค้าล็อตใหญ่ที่โกดังเก็บสินค้าในอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เมื่อถึงจุดนัดพบ พบนางจีวาและนายนะยืนรออยู่หน้าโกดัง เจ้าหน้าที่จึงทำทีขอเข้าไปตรวจสอบภายใน ระหว่างนั้นผู้ต้องหาทั้งสองเกิดความผิดสังเกตและพยายามจะหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าระวังอยู่โดยรอบได้เข้าทำการจับกุมได้ทันที

หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นภายในห้องพักและโกดังเก็บสินค้า พบบุหรี่เถื่อนยี่ห้อต่างๆ จำนวนมาก รวมถึงบุหรี่ไทยปลอมยี่ห้อกรองทิพย์ที่ถูกนำเข้ามาพร้อมกับบุหรี่เถื่อนอื่นๆ ซึ่งถือเป็นเคสแรกที่พบ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าร่วมกันนำบุหรี่เถื่อนมาจำหน่ายจริง โดยร่วมกับเครือญาติชาวกัมพูชาลักลอบขนข้ามแดนมาผ่านช่องทางธรรมชาติที่อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ก่อนจะซุกซ่อนมากับรถบรรทุกผลไม้ และนำมาพักไว้ที่โกดังในจังหวัดปทุมธานีแห่งนี้ เพื่อเป็นจุดแพ็กของและจัดส่งให้กับลูกค้า โดยนายนะทำหน้าที่เป็นแอดมินเพจหาลูกค้า ส่วนนางจีวาทำหน้าที่สั่งออเดอร์บุหรี่จากเครือญาติในประเทศกัมพูชา โดยจะได้กำไรจากการจำหน่ายคอตตอนละ 20-50 บาท และได้กระทำความผิดมาแล้วประมาณ 2 ปี

ด้านนายสุเมธ ฤทธิ์จันทร์ ผอ.สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรมสรรพสามิต กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น บุหรี่เถื่อนที่ยึดและอายัดได้มีจำนวนมากกว่า 50,000 ซอง คิดเป็นมูลค่าภาษีที่รัฐต้องสูญเสียมากกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีโทษตามพระราชบัญญัติสรรพสามิต หากคิดเป็นโทษปรับจะอยู่ประมาณ 42 ล้านบาท การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการปราบปรามเครือข่ายบุหรี่เถื่อนรายใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลและสุขภาพของประชาชน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *