คลังอัปเดตเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 (16-20 ปี) ยันงบ 1.57 แสนล้านพร้อม! ชี้เศรษฐกิจผันผวน ต้องใช้จ่ายรอบคอบ

คลังอัปเดตความคืบหน้าโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 (กลุ่ม 16-20 ปี) ยืนยันงบประมาณ 1.57 แสนล้านบาทเตรียมพร้อมไว้แล้ว แม้เศรษฐกิจไทยเผชิญปัจจัยภายนอกที่ผันผวน ซึ่งรัฐบาลจะต้องใช้จ่ายอย่างรอบคอบ ขณะที่ไทม์ไลน์การแจกจ่ายยังคงเป้าภายในไตรมาส 2 ปี 2568

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2568 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 สำหรับกลุ่มอายุ 16-20 ปี ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการเวียนสอบถามความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป

นายเผ่าภูมิ ย้ำว่า กำหนดการในการดำเนินโครงการยังคงเป็นไปตามแผนเดิม คือ จะสามารถดำเนินการและแจกจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิได้ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 นี้

อย่างไรก็ตาม นายเผ่าภูมิยอมรับว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันมีปัจจัยภายนอกที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของรัฐบาลเข้ามากระทบ โดยเฉพาะผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-tariff Barriers) ซึ่งยังไม่สามารถประเมินผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน เนื่องจากต้องติดตามความชัดเจนด้านนโยบายจากทางสหรัฐอเมริกาอีกครั้งในช่วงที่ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ (ฝุ่นตลบ)

จากสถานการณ์ดังกล่าว รัฐบาลอาจจะต้องมีการพิจารณาทบทวนงบประมาณทั้งหมดอย่างละเอียด ทั้งงบประมาณปี 2569 และการบริหารจัดการงบประมาณส่วนต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในอนาคต การออกมาตรการต่างๆ เพื่อดูแลเศรษฐกิจจะต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

ทางด้าน นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ยังคงอยู่ในขั้นตอนการสอบถามความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และต้องยอมรับว่าสถานการณ์เศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีตอบโต้ เช่นที่ปรากฏในนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งยังประเมินผลกระทบได้ยาก ทำให้การพิจารณาเรื่องการใช้จ่ายต่างๆ จะต้องมีความรอบคอบเป็นพิเศษ

สำหรับประเด็นเรื่องงบประมาณที่จะใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น นายลวรณยืนยันว่า รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมในส่วนนี้ไว้แล้วในวงเงินจำนวน 1.57 แสนล้านบาท

ส่วนกรณีแนวทางการกู้เงินวงเงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจนั้น ปลัดกระทรวงการคลังชี้แจงว่า ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในเรื่องนี้ โดยประเด็นหลักที่ต้องพิจารณาคือเรื่องของแผนการใช้จ่ายเงินกู้ ซึ่งต้องมีความชัดเจน ทั้งนี้ การกู้เงินมักจะถูกนำมาใช้เพื่อการลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาความจำเป็นและอาจมีการปรับลดขนาดโครงการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ฟื้นฟูเศรษฐกิจในปัจจุบัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *