กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กรณีถูกกล่าวหาว่ามีการถือหุ้นและเป็นกรรมการบริหารในบริษัทเอกชนจำนวน 4 บริษัท ซึ่งอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2561

นายสนธิญา กล่าวชี้แจงว่า การยื่นเรื่องในครั้งนี้ไม่ได้มีการประสานงานกับนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ หรือบุคคลอื่นใด แต่เป็นการได้รับเอกสารจากผู้ร้องเรียนที่ส่งมาถึงตนโดยตรง ซึ่งหลักฐานเกี่ยวกับการถือหุ้นหรือการเป็นกรรมการบริหารในบริษัทนั้นเป็นเรื่องที่สามารถตรวจสอบได้ทางวิทยาศาสตร์ หากนายพีระพันธุ์มั่นใจว่าไม่ได้ถือหุ้นในบริษัททั้ง 4 แห่ง ก็ควรรีบออกมาชี้แจงต่อสาธารณะ หรือแม้จะถือหุ้นจริง ก็ควรแถลงอธิบายถึงเหตุผลและความจำเป็น

“นายพีระพันธุ์เป็นถึงรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ถือเป็นบุคคลสาธารณะที่ต้องพร้อมรับการตรวจสอบ” นายสนธิญาเน้นย้ำ พร้อมกล่าวถึงบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่องจริยธรรมและคุณธรรม ซึ่งที่ผ่านมาทำให้นักการเมืองหลายคนต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปตลอดชีวิต และหวังว่าการบังคับใช้กฎหมายจะเป็นไปโดยชอบธรรมเสมอภาคกันทุกคน

นายสนธิญา ได้เรียกร้องเป็นครั้งที่สองให้นายพีระพันธุ์ออกมาชี้แจงให้ชัดเจนว่ามีการถือหุ้นหรือเป็นกรรมการในบริษัททั้ง 4 แห่งจริงหรือไม่ เพราะไม่ใช่เรื่องยากในการตรวจสอบ พร้อมระบุว่า นอกจากการยื่นเรื่องต่อ กกต. แล้ว ตนจะนำเอกสารหลักฐานชุดเดียวกันนี้ไปยื่นต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อให้วินิจฉัยตามหนังสือบริคณห์สนธิของทั้ง 4 บริษัทด้วย หากนายกรัฐมนตรียังคงนิ่งเฉย ตนก็จะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรีในประเด็นนี้เช่นกัน โดยชี้ว่านายกรัฐมนตรีอาจพัวพันไปถึงการปล่อยปละละเลยที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและจริยธรรมอย่างร้ายแรง

นายสนธิญา ยืนยันว่าการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ได้มาจากความโกรธแค้นเคืองส่วนตัว และไม่ได้ติดใจกับการที่ ส.ส. ต่างๆ ออกมาชี้แจงแทน

นอกจากเอกสารเกี่ยวกับประเด็นการถือหุ้น นายสนธิญาแจ้งว่าได้ยื่นเอกสารเพิ่มเติมอีก 2-3 ชุดต่อ กกต. ซึ่งรวมถึงกรณีการลาออกของนายพีระพันธุ์ในช่วงที่เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ และกรณีการเข้ารับตำแหน่งต่างๆ เพื่อให้ กกต. ใช้ประกอบการพิจารณาวินิจฉัย หากมีข้อมูลเพิ่มเติมก็จะนำมายื่นเพิ่มเติมอีกครั้ง

เมื่อถูกถามถึงความมั่นใจในหลักฐาน นายสนธิญาตอบว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีเพียงตนคนเดียวที่ยื่นร้องเรียน แต่มีอีกหลายฝ่าย ทั้งบุคคลอื่นและสื่อมวลชนจำนวนมากก็หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดถึง ซึ่งแสดงว่าน่าจะมีข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญ

นายสนธิญา ยังกล่าวถึงนายพีระพันธุ์ว่าเป็นนักการเมืองที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ และดูใสสะอาดในภาพลักษณ์ แต่ยืนยันว่าเอกสารหลักฐานที่ปรากฏก็จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบเพื่อความชัดเจน พร้อมยกอีกกรณีหนึ่งคือกา รติดป้ายของแจกชาวบ้าน ซึ่งตนมองว่าเป็นความผิดพลาดของนักกฎหมายระดับเซียนได้เช่นกัน แต่ประเด็นหลักคือการทำงานการเมืองต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะนายพีระพันธุ์ซึ่งเป็นอดีตผู้พิพากษา มีความรู้ทางด้านกฎหมายเป็นอย่างดี จึงขอเรียกร้องอีกครั้งให้ออกมาแถลงข่าวถึงการถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ว่าเป็นจริงหรือไม่ อย่างไร